October 12, 2018
(12/10/2018 - 08:50)

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ทรุดตัวลงแรง -38.93 จุด (-2.26%) ปิดที่ 1,682 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82,889 ล้านบาท โดยลงตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกจากความกังวลภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐที่เร่งตัวขึ้นโดยดัชนี PPI เดือนก.ย.+0.4% พุ่งสูงสุดในรอบ 8 เดือน จึงคาดการณ์ว่า FED จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นแรงขายในกลุ่ม Big cap ได้แก่ ENERG, PETRO และ CONS ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 10,562 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 812 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX 23,013 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาดการณ์ SET Index แกว่งตัว 1,670 – 1,690 จุด โดยภาวะตลาดยังคงถูกแรงกดดันจากความกังวลสงครามการค้าที่จะกระทบต่อผลประกอบการบริษัท ประกอบกับคาดการณ์ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเร่งตัวขึ้นโดย CPI เดือนก.ย. +0.1% MoM รวมถึง bond yield US 10 ปี ทรงตัวระดับสูง ซึ่งส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติมีแนวโน้มไหลออกต่อเนื่อง อีกทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรงหลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดโดยพุ่งขึ้น 6 ล้านบาร์เรล จะเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มพลังงานและทิศทางดัชนี อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงซื้อกองทุน LTF , RMF เข้ามาช่วยหนุนในช่วงอ่อนตัวได้

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

  • กลุ่มอิเล็กฯ (KCE, SVI ) กลุ่มอาหาร (GFPT, CPF) ได้ประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า
  • กลุ่ม defensive stock เช่น กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BCH, CHG) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, CKP, EA)
  • กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกจากการเลือกตั้ง และบอร์ด EEC อนุมัติ 4 โครงการใหญ่ 4.7 แสนลบ. คาดออก TOR ภายในเดือนต.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้ : KTB (19.5 ซื้อ/เป้า 23) เราเลือก KTB เป็นหนึ่งใน top pick กลุ่มธนาคารเนื่องจากคาดว่าจะมีผลกำไรเติบโตโดดเด่นที่สุดในปีนี้และปีหน้าประมาณ 30%yoy และ 11%yoy ตามลำดับ เป็นผลจากสินเชื่อภาครัฐที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นและได้ผลบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น, CKP (ปิด 5.0 ซื้อ/เป้า consensus 5.06) เก็งกำไรงบ 3Q18 โตก้าวกระโดดจากโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ในลาวเดินเครื่องเต็มกำลังผลิตตามน้ำในเขื่อนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหน้าฝน, TKN (ปิด 15 ซื้อ/เป้า 21.5) คาดกำไร 2H18 จะโตทั้ง yoy และ hoh จากการเข้าสู่ช่วง High season, กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากการเริ่มผลิตของโรงงานใหม่ (เฟส3) และได้ประโยชน์จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลง

Top picks ปีนี้ : ANAN, BBL, CPALL, MTC, ROBINS และ SPALI

KSS report วันนี้ : ADVANC (ปิด 196 ซื้อ/เป้าใหม่ 230 จาก 225), CPF (ปิด 23.9 ซื้อ/เป้าใหม่ 28 จาก 29), KTC (ปิด 34 ซื้อ/เป้าใหม่ 40 จาก 34) , PTTGC (ปิด 77 ซื้อ/เป้า 110)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :

(-) หลายปัจจัยลบสะสมกดดันดาวโจนส์ร่วงแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แต่เช้าวันนี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์กลับมาฟื้นตัวช่วยลดผลกระทบทางลบต่อตลาดหุ้นบ้านเราในวันนี้ : ดาวโจนส์ร่วงแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 546 จุด (-2.13%) ปิดที่ 25,053 จุด ตลาดไม่ได้มีปัจจัยลบใหม่ แต่เป็นผลของปัจจัยเสี่ยงเดิมที่สะสมมาตลอดและจะกลายเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกในระยะถัดไป อาทิ 1) สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังยืดเยื้อ 2) เงินเฟ้อพุ่ง กังวลบอนด์ยิลด์เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี กดดันเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย และ 3)นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐเป็นเพียงประเทศเดียวที่ดัชนีพุ่งทำ New high ได้อีกครั้ง ตรงข้ามกับตลาดหุ้นอื่นทั่วโลกที่ปรับลง

(-) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน – ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงอีก 2.2$/bbl กังวลดีมานด์หดตัว หลังสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงอีก 2.2 ดอลลาร์ (-3%) ปิดที่ 70.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กังวลดีมานด์น้ำมันดิบในสหรัฐหดตัวหลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.7 ล้านบาร์เรล และเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3

(+) กลุ่มธนาคารและไฟแนนซ์ – TISCO & KTC แจ้งผลกำไร 3Q18 ยังโตดีไร้ข้อกังวล ส่วงแบงก์อื่นๆประกาศงบสัปดาห์หน้าคาดผลกำไรออกมาดีในทิศทางเดียวกัน : วานนี้ TISCO ประกาศผลประกอบการ 3Q18 มีกำไรสุทธิ 1,815 เพิ่มขึ้น 6%qoq และ 15%yoy ขณะที่ KTC แจ้งกำไรโตโดดเด่นมีกำไรสุทธิ 1,396 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7%qoq และ 65%yoy เรามองจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศงบออกมาทั้งหมดในสัปดาห์หน้า โดยคาดหวังว่าผลกำไรจะออกมาในทิศทางเดียวกันกับ TISCO และ KTC