ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปิดบวก +3.02 จุด (+0.17%) ปิดที่ 1,752 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 63,425 ล้านบาท โดยระหว่างวันทรุดตัวลงแรงจากความกังวล FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. และปรับขึ้นอีก 3 ครั้งในปีหน้า นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากการ Rollover ของ TFEX ส่งผลให้ตลาดผันผวนสูง อย่างไรก็ตามได้แรงซื้อกลุ่ม ENERG, FIN, BANK หนุนให้ดัชนีสามารถปิดบวก ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,737 ล้านบาท, ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,487 ล้านบาท และ Net Short TFEX 8,792 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาดการณ์ SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,760 จุด +/- ก่อนจะอ่อนตัวลง เนื่องจากภาวะตลาดได้ sentiment เชิงบวกจาก GDP 2Q18 ของสหรัฐ +4.2% ขยายตัวสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเดือนส.ค. +4.5% ซึ่งปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือน ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงจากความกังวลอุปทานที่ลดลงตามมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและดัชนี อย่างไรก็ตามกระแส Fund Flow ที่ยังคงชะลอตัวโดยเป็นฝั่งขายสุทธิทั้งในตลาดหุ้นและ TFEX หลัง FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.ซึ่งจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัว

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

• กลุ่มเดินเรือ (PSL, TTA) ค่าระวางเรือดีดตัวขึ้น +10% WoW ล่าสุด 1,524 จุด
• กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTGC, TOP, PTTEP) ราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง
• Domestic play รับผลบวกจากการเลือกตั้ง รับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) กลุ่มค้าปลีกที่มีฐานลูกค้าต่างจังหวัด (ROBINS, CPALL, DCC, TK)
• กลุ่ม defensive stock เช่น กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BCH, CHG) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, CKP, EA)

หุ้นแนะนำวันนี้ : MTC (ปิด 45.25 ซื้อ/เป้า 50) รับผลบวกกฏระเบียบใหม่ของ ธปท. ค่อนข้างผ่อนคลาย ด้านผลกำไรยังเติบโตต่อเนื่อง ประสิทธิภาพการดำเนินงานต่อสาขายังเหนือกว่าคู่แข่ง แผนการขยายสาขาเพิ่มปีละ 600 สาขายังเดินหน้าตามเป้าคาดหนุนกำไรสุทธิในอีก 2 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ย 30-40% ต่อปี, TKN (ปิด 17.1 ซื้อ/เป้า 21.5) คาดกำไร 2H18 จะโตทั้ง yoy และ hoh จากการเข้าสู่ช่วง High season, กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากการเริ่มผลิตของโรงงานใหม่ (เฟส3) และได้ประโยชน์จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลง, STEC (ปิด 24.5 ซื้อ/เป้าสูงสุด consensus 32) เก็งกำไรภาพการเมืองในประเทศชัดเจนและภาครัฐเตรียมเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ อาทิ ทางด่วน และ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

Top picks ปีนี้ : ADVANC, ANAN, BEM, BDMS, CHG, CPALL, IVL, MINT, MTC และ QH

KSS report วันนี้ : QH (ปิด 3.48 ลดเกรดเป็นถือ/เป้าใหม่ 3.8 จาก 4.2)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :       

• (+) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน – ราคาน้ำมันดิบกลับมาปิดบวก หลังสหรัฐยืนยันจะไม่ระบายน้ำมันออกจากคลังสำรอง : ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาเพิ่มขึ้น 55 เซนต์ (+0.8%) ปิดที่ 72.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนตอบรับข่าวสหรัฐยืนยันยังไม่มีแผนที่จะระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อกดดันราคาน้ำมัน นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากความกังวลต่อภาวะอุปทานตึงตัวเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ของสหรัฐจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.
• (+) กลุ่มลิสซิ่ง – ธปท.คาดเดือน พ.ย.จะสามารถประกาศใช้แนวทางกำกับดูแลสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกันได้ คาดเป็นบวกต่อผู้ประกอบการเนื่องจากกฏเกณฑ์ค่อนข้างผ่อนคลาย Top pick MTC : โดยมี กฏเกณฑ์ในเบื้องต้นคือ 1)กำหนดให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่มีใบอนุญาติต้องยื่นจดทะเบียนใน 60 วัน 2)ผู้ประกอบการรายใหญ่จะต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 50 ล้านบาท 3)คิดดอกเบี้ยจำนำรถได้ไม่เกิน 28% 4)ไม่กำหนดวงเงิน โดยให้ขึ้นอยู่กับมูลค่ารถ และ 5) ค่าทวงถามหนี้ให้คิดตามจริง นับเป็นกฏเกณฑ์ที่ค่อนข้างผ่อนคลาย เนื่องจากก่อนหน้าตลาดวิตกกังวลว่า ธปท.จะออกกฏระเบียบควบคุมให้ผู้ประกอบการคิดอัตราดอกเบี้ยได้ไม่เกิน 15% จากปัจจุบันที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คิดอัตราดอกเบี้ยที่ 21%
• (+) กลุ่มรับเหมา – ได้อานิสงส์การเมืองชัดเจน ภาครัฐเร่งเปิดประมูลงาน ล่าสุด กทพ.เตรียมเปิดประมูลโครงการ ทางด่วนพระราม 3 วงแหวนรอบนอกมูลค่ารวม 3.1 หมื่นล้านบาท Top pick STEC : กลุ่มรับเหมาเป็นกลุ่มที่ได้ผลบวกจากภาพการเมืองในประเทศที่ชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังได้ sentiment บวกจากงานก่อสร้างภาครัฐที่เร่งตัวขึ้น ล่าสุด การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) คาดว่าจะออกประกาศเชิญชวนเอกชน (TOR) เข้ามาร่วมประมูลงานโครงการทางพิเศษพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก มูลค่าลงทุน 3.1 หมื่นล้านบาท และเปิดประมูลได้ภายในเดือน ต.ค.นี้