Money Wizard - January 8, 2018
(08/01/2018 - 09:45)

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นทำ New High ปิดที่ 1,795 จุด (+4.43 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 87,481 ล้านบาท ตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศที่ขยายตัวแข็งแกร่ง รวมถึงแรงซื้อกลุ่ม Commodity เช่น น้ำมัน ถ่านหินและเดินเรือ ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,030 ล้านบาท ,  Net Short TFEX 11,385 สัญญา และ ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 20,884 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ :  ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ sensiment เชิงบวกจากคาดการณ์เฟดชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรขยายตัวน้อยกว่าคาด รวมถึง Fedwatch ปรับลงโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเฟดในการประชุมเดือนมี.ค.ลงจาก 78% เป็น 76%  ประกอบกับแรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน ถ่านหิน)ที่ทรงตัวระดับสูง อย่างไรก็ตามความกังวล Fund Flow ต่างชาติที่เป็น Net Sell 2 วัน ราว 3 พันลบ.รวมถึงภาวะ Overbought ทางเทคนิคจะกดดันให้ดัชนีผันผวนสูง ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัว 1,790 - 1,804 จุด

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ซื้อเก็งกำไร

  • BANPU LANNA AGE ราคาถ่านหินขึ้นทำ High รอบ 13 เดือนล่าสุด 105.3 US/Ton
  • กลุ่มพลังงานและปิโตรฯ (PTTEP IRPC PTTGC IVL ) ราคาน้ำมันพุ่งทำ High ในรอบ 2 ปีครึ่ง
  • กลุ่มเดินเรือ (PSL TTA) ค่าระวางมีสัญญาณรีบาวด์ขึ้นล่าสุด 1,371 จุด
  • กลุ่มค้าปลีก (CPALL ROBINS CPN COL) High season การจับจ่ายใช้สอยช่วงคริสมาสต์และปีใหม่
  • กลุ่มที่คาดว่ากำไรเติบโตโดดเด่นในปี 2018  AOT BBL TMB IVL  UVAN GCAP ORI  IHL BCH EA

หุ้นแนะนำวันนี้ :   IHL (ปิด 10.4 บาท  ซื้อ/ เป้า 13 บาท )  คาดกำไรปกติ 4Q17 เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากยอดขายเบาะหนังรถยนต์และฟอกหนังเพิ่มขึ้น ขณะที่ปีนี้คาดกำไรสุทธิยังเติบโตในระดับสูงเนื่องจากจะรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเข้ามาเป็นปีแรก

ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 2018 : ธนาคาร, พลังงาน, อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์

Top picks ปีนี้ : AMATA, BBL, BCH, CENTEL, COL, CPALL, IVL, MINT, ORI and TMB

KSS report วันนี้ : AAV (ปิด 6.1 ถือ/เป้า 6.4), ADVANC (ปิด 195 ซื้อ/เป้า 220), D (ปิด 9.2 ซื้อ /เป้า 11)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :      

(+) คาดหวังเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ : เมื่อวันศุกร์ดัชนีดาวโจนส์บวกแรงกว่า 221 จุด เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังเชิงบวกว่าเฟดอาจจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปหลังจากที่สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 148,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง ซึ่งภายหลังการรายงานตัวเลขดังกล่าวพบว่าผลสำรวจถึงความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือน มี.ค.ลดลงจาก 78% เป็น 76% สอดคล้องกับคณะกรรมการเฟดบางท่านที่เสนอให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เป็น 2 ครั้งแทนที่จะเป็น 3 ครั้ง

(-) ราคาน้ำมันพักตัว นักลงทุนทยอยขายทำกำไร และยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่หนุน : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 57 เซนต์ ปิดที่ 61.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนส่วนใหญ่ยังเป็นปัจจัยเดิมคือนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองในอิหร่านซึ่งอาจจะกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบ จึงทำให้นักลงทุนบางส่วนทยอยขายทำกำไรและลดความเสี่ยงหลังจากที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี อย่างไรก็ตามสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐอาจจะยังช่วยพยุงให้ราคาน้ำมันยังยืนเหนือระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลไปอีกระยะหนึ่ง

(+) Fund Flow : เมื่อวันศุกร์นักลงทุนต่างชาติยังเข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นภูมิภาคอีก US$549 ล้าน โดยซื้อทุกตลาดยกเว้นไทย โดยซื้อมากที่สุดในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$406 ล้าน ตามด้วย ไต้หวัน US$161 ล้าน ส่วนกลุ่ม TIP ซื้อสุทธิมากที่สุดในตลาดหุ้นอินโดฯ US$27 ล้าน ตามด้วยฟิลิปปินส์ US$17.9 ล้าน ส่วนตลาดหุ้นไทยต่างชาติขายสุทธิอีก US$63 ล้าน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

(+/-) สัปดาห์นี้ติดตามการ Preview ผลประกอบการ 4Q17 ของกลุ่มธนาคารและกลุ่มการเงิน อาจกระตุ้นให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร ดักทางผลประกอบการโดยเฉพาะหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการจะออกมาดี อาทิ TISCO และ MTLS