July 1, 2020
(01/07/2020 - 08:25)

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ปรับตัวขึ้น +9.27 จุด (+0.70%) ปิดที่ระดับ 1,339 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.9 หมื่นล้านบาท ตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ดีดตัวขึ้นตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจจีนและสหรัฐออกมาดี โดยสหรัฐรายงานยอดขายบ้านรอปิดการขาย เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นในอัตรามากสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือน มิ.ย.ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,174  ล้านบาท  แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 389 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX SET50  1,655 สัญญา 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,330 – 1,350 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้ sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นรอบบ้านที่ดีดตัวขึ้นตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งโดยดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐในเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 4.7% YoY รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเดือนมิ.ย.ดีดตัวสู่ระดับ 98.1 อย่างไรก็ตามยอดผู้ติดเชื้อไวรัส Covid-19 รายใหม่ในสหรัฐที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง (ล่าสุดเพิ่มขึ้น 4.6 หมื่นราย) ส่งผลให้ความกังวลการแพร่ระบาดรอบใหม่ยังคงอยู่และจะกดดันให้ดัชนีมีความผันผวนสูงต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มพลังงาน (PTT PTTEP TOP PTTGC IRPC SPRC IVL ) อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง
  • กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะเติบโตขึ้น  (CKP, TASCO, STA)
  • MINT CENTEL ERW AOT AAV อานิสงส์ครม.ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ

หุ้นแนะนำวันนี้

  • BCH (ปิด 15 ซื้อ /เป้า IAA Consensus 17.50) จำนวนผู้เข้าใช้บริการเริ่มฟื้นตัว ผลประกอบการผันผวนน้อยกว่าหากเทียบกับ BDMS และ BH เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มลูกค้าประกันสังคม (SSO) ประมาณ 33% ของรายได้รวม เสมือนเป็น Recurring income ของธุรกิจเพราะรายได้คิดตามจำนวนผู้ประกันตนและรายได้ และยังมี Sentiment บวกจากภาครัฐเริ่มอนุญาติให้ผู้ป่วยต่างชาติสามารถเข้ามารักษาพยาบาลในไทยได้แล้วเริ่ม 1 ก.ค.นี้
  • INTUCH (56.5 ซื้อ/เป้า 74.0) ผลประกอบการได้รับผลกระทบจาก Trade war และ Covid-19 จำกัด ทำให้ INTUCH ยังสามารถจ่ายปันผลได้เต็มที่ โดยปีนี้คาด INTUCH จะจ่ายปันผลประมาณ 2.48 บาทต่อหุ้นให้ Dividend yield ประมาณ 4.4% ราคาหุ้นที่ลดลงยังเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ

บทวิเคราะห์วันนี้

Thailand Strategy: กำไรบริษัท 2Q20

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) ดาวโจนส์บวกต่อ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังออกมาดี ขณะที่รัฐมนตรีคลังระบุพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม : ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 217 จุด (+0.85%) ปิดที่ระดับ 25,813 จุด นักลงทุนยังมีมุมมองบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากที่รายงานตัวเลขเศรษฐกิจในหลายกิจกรรมยังออกมาดี ล่าสุดดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศของสหรัฐเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 4.7%yoy เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือน มี.ค.ที่เพิ่มขึ้น 4.6%yoy ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 98.1 จาก 85.9 ในเดือน พ.ค.และสูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 91 นอกจากนี้ตลาดยังคาดหวังภาครัฐจะเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันพยุงเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นจากวิกฤตโควิด-19
  • (-) Covid-19 – การแพร่ระบาดรอบ 2 ในสหรัฐยังไม่น่าไว้วางใจ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง : สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ในสหรัฐยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่กลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง โดยล่าสุด worldometer รายงานผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 หมื่นรายเร่งตัวขึ้นจาก 2 วันก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 4 หมื่นรายและ 4.4 หมื่นราย ตามลำดับ โดยรัฐแคริฟอเนีย และ เท็กซัส จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นทะลุระดับ 7 พันรายต่อวัน ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง การเร่งตัวขึ้นของผู้ติดเชื้ออาจกดดันให้ผู้ว่าการรัฐดำเนินมาตรการที่เข้มงวดขึ้นเพื่อสะกัดการแพร่ระบาด
  • (+) ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวตามคาด แม้ลดแพ็กเกจการท่องเที่ยวเหลือ 2 แพ็กเกจ แต่มูลค่าเงินอุดหนุนเท่าเดิมที่ 2.2 หมื่นล้านบาท : วานนี้ที่ประชุม ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวมูลค่า 2.24 หมื่นล้านบาท แต่ลดแพ็กเกจการท่องเที่ยวจาก 3 เป็น 2 แพ็กเกจ จากการรวมแพ็จเกจ “ไปเที่ยวกัน” และ “เที่ยวปันสุข” แล้วเปลี่ยนเป็นแพ็กเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” แพ็กเกจนี้รัฐบาลจะให้เงินอุดหนุนค่าที่พักไม่เกิน 40% ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน, ค่าอาหารไม่เกิน 600 บาทต่อคืน และ ค่าเครื่องบินไม่เกิน 1,000 บาทต่อคน  ส่วนอีก 1 แพ็กเกจ คือ แพ็กเกจ “กำลังใจ” ให้สิทธ์เฉพาะ อสม. และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน 1.2 ล้านคน โดยวันที่ 1 ก.ค. จะเปิดให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและโรงแรมลงทะเบียน ส่วนประชาชนทั่วไปจะเปิดให้ลงทะเบียน 15 ก.ค. มาตรการนี้จะส่งผลบวกต่อรายได้และ Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม (ERW CENTEL), สายการบิน(AAV) และ ร้านอาหาร (ZEN)