UBE - อัตรากำไร 2Q สูงขึ้น (TP Bt3.0, BUY)
(24/05/2022 - 08:10)
กลุ่มอุตสาหกรรม พลังงานและสาธารณูปโภค
หุ้น UBE
มูลค่าพื้นฐาน 3.00
คำแนะนำ BUY

ปริมาณขายเอทานอลและแป้งสตาร์ซจะยังอ่อนแอใน 2Q เนื่องจากการปิดซ่อมโรงงาน 14 วัน แต่อัตรากำไรขั้นต้นเอทานอลและแป้งสตาร์ชจะฟื้นตัว qoq โดยแป้งสต๊าซหนุนจากสัดส่วนปริมาณออร์แกนิคสตาร์ชที่มีอัตรากำไรสูง คงคำแนะนำ ซื้อ TP 3.0 บาทต่อหุ้น

 

ผลประกอบการ 1Q22

รายได้ลดลง 20% qoq (+36% yoy) เป็น 1.54 พันลบ. เนื่องจากปริมาณขายเอทานอลและออร์แกนิคสตาร์ชลดลง ปริมาณขายเอทานอลเชื้อเพลิงลดลง 18% qoq เป็น 32 ล้านลิตรจากผลของฤดูกาล และวัตถุมันสำปะหลังตึงตัว เอทานอลอุตสาหกรรมลดลงเป็น 3 ล้านลิตรจาก 4 ล้านลิตรใน 4Q21 เนื่องจากสถานการณ์ โควิดที่ดีขึ้น อัตรากำไรเงินสดรวมของเอทานอลลดลงเป็น 12% จาก 16% ใน 4Q21 วัตถุดิบมันสำปะหลังจะตึงตัวตลอดปีนี้เนื่องจากดีมานด์จากจีนเพิ่มขึ้น การส่งออกมันสำปะหลังไปจีนแตะระดับ 3 ล้านลิตร ใน 1Q เทียบเท่าการส่งออกทั้งปี 2021 กำไรสุทธิลดลง 1% qoq (+202% yoy) เป็น 116 ลบ. (0.03 บาท EPS)

คาดปริมาณขายเอทานอลยังอ่อนแอ แต่อัตรากำไรสูงขึ้นใน 2Q

UBE ปิดซ่อมบำรุงโรงผลิตเอทานอลและแป้งสตาร์ช (แห่ง 14 วัน) ใน 2Q และทำให้ปริมาณขายลดลง qoq แต่อัตรากำไรจะสูงขึ้น qoq จากราคาขายเอทานอลเชื้อเพลิงสูงขึ้นเป็น 26.5 บาทต่อลิตร (25.5 บาทใน 1Q) UBE ล็อคต้นทุนวัตถุดิบมันสำปะหลังในปีนี้ที่ 7.5 บาทต่อลิตร เทียบกับราคาปัจจุบันที่ 8.5-9.0 บาทต่อลิตร ราคาขายเอทานอลมีแนวโน้มสูงขึ้นเป็น 27.5 บาทใน 3Q ผลจากต้นทุนสูงขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเป็น 15% ใน 2Q จาก 12% ใน 1Q ปริมาณขายแป้งออร์แกนิคเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 หมื่นตันใน 2Q (1.0 หมื่นตันใน 1Q) และปริมาณขายแป้งสตาร์ชดิบเพิ่มขึ้นเป็น 2.0 หมื่นตัน (1.7 หมื่นตันใน 1Q) สัดส่วนแป้งออร์แกนิตสตาร์ชทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสตาร์ชเฉลี่ยเพิ่มเป็น 25% จาก 20% ใน 1Q ปริมาณขายแป้งเติบโตเป็น 800-1,000 ตันจาก 553 ตันใน 1Q อิงจากปริมาณขายตามออเดอร์ นอกจากนี้ปริมาณขายแป้งเติบโตต่อใน 3Q และ 4Q (UBE ตั้งเป้า 3,000-5,000 ตันใน 2H22) โดยแป้งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีที่ 30-40%

แนะนำ ซื้อ TP 3.0 บาท

UBE คงเป้าหมายรายได้เติบโต 100% ในสามปีโดยใช้งบลงทุน 2 พันลบ. ในปี 2022-23 และคาดว่าจะมีดีล M&A หนึ่งดีลใน 3Q UBE ขยายไลน์ผลิตแป้ง (1H22, 400 ลบ.), ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต (1H22, 70 ลบ. ในโรงงานผลิตแป้งสตาร์ชและเอทานอล) และลดปัญหาคอขวดของโรงงานเอทานอล (2H22, 80 ลบ.) ทั้งหมดยังอยู่ในกำหนดการแล้วเสร็จใน 1Q22 และจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักในระยะสั้น