รีบาวด์ตามเพื่อนบ้าน - 16 มิถุนายน 2022
(16/06/2022 - 07:50)

ตลาดหุ้นวานนี้

SET ปิดลบ 9 จุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายเพื่อลดความเสี่ยงและรอดูความชัดเจนของการประชุมเฟดว่าจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยแรงเหมือนกับที่ตลาดกังวลหรือไม่ โดยวันนี้หุ้นกลุ่ม Domestic play อาทิ ค้าปลีกและไฟแนนซ์ลดลงมากสุดกังวลต้นทุนพลังงานและดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะกระทบอำนาจซื้อของประชาชน

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET ฟื้นตัวแนวต้าน 1,600 - 1,605 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่รีบาวด์ขึ้นหลัง FED มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ตามคาดและเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนตั้งแต่ 1 ก.ย. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตามคาดว่ากลุ่มพลังงานจะมีแรงขายและเป็นตัวถ่วงดัชนีหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง ดังนั้นจึงแนะนำ Selective buy ต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • BLA TIPH KBANK BBL SCB TTB  อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น 
  • AOT MINT CENTEL BDMS BH CPALL CPN  AMATA  อานิสงส์การเปิดประเทศ
  • GPSC BGRIM SCGP EPG  sentiment บวกราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง

หุ้นแนะนำวันนี้

  • TTB (ปิด 1.26 ซื้อ/เป้า 1.60 บาท) ราคาหุ้น Underperform ตลาดมาก YTD ติดลบ 15% ขณะที่ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น และ TTB คาดว่าจะเป็นธนาคารที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิดีสุดของกลุ่มธนาคารขนาดกลางถึงเล็ก
  • PSL (ปิด 18.5 ซื้อ/เป้า 25 บาท) ได้ Sentiment บวกดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยปรับตัวขึ้น 103 (+4.51%) ปิดที่ระดับ 2,387 นอกจากนี้ PSL ยังเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณในดัชนี SET100 รอบใหม่

บทวิเคราะห์วันนี้

SEAFCO (ปิด 3.6 อัพเกรดเป็นซื้อ/เป้าใหม่ 4.4 เดิม 5.0), Strategy

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (-) ดาวโจนส์ฟื้นตัวหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด: ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 304 จุด (+1.00%) ปิดที่ระดับ  30,669 จุด หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็น 1.5% ตามคาด นอกจากนี้เฟด (FED dot plot) ยังส่งสัญญาณจะขึ้นดอกเบี้ยไปที่ระดับ 3.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ และเป็น 3.8% ในปีหน้าถือว่าอยู่ในกรอบที่ตลาดคาดไว้เช่นกัน ส่วน QT จะอยู่ที่ 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จนถึงสิ้นเดือน ส.ค. และจะปรับขึ้นเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ย. เป็นต้นไป
  • (-) น้ำมันดิบ WTI ร่วงแรง 3.62 ดอลลาร์ สต๊อกพุ่งขึ้นเกินคาด เฟดขึ้นดอกเบี้ยแรงกระทบดีมานด์: ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 3.62 ดอลลาร์ (-3%) ปิดที่ระดับ 115.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลัง EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักลงทุนคาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้นักลงทุนยังกังวลว่าเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรงและปรับลดคาดการณ์ GDP จะทำให้ความต้องการน้ำมันดิบลดลง
  • (-) คาด BoE ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 1.25% เพื่อคุมเงินเฟ้อ: การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของอังกฤษ(BoE meeting) ในวันนี้เบื้องต้นเราคาดว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% จาก 1% เป็น 1.25% นับเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกันโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อคุมเงินเฟ้อหลังจากที่เงินเฟ้อเดือน เม.ย.พุ่งแตะระดับ 9% สูงสุดในรอบ 40 ปี