ตลาดหุ้นวานนี้

SET ร่วง 14 จุด จากแรงเทขายหุ้นในกลุ่ม Domestic Play เนื่องจากนักลงทุนกังวลภาวะเงินเฟ้อ และราคาพลังงานที่พุ่งสูงจะกระทบกำลังซื้อของประชาชนและสุดท้ายทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้รายได้และกำไรของบริษัทจดทะเบียนลดลง หุ้นกลุ่ม ค้าปลีก ธนาคาร และ ไฟแนนซ์ ปรับตัวลงกดดันตลาด

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET พักตัวแนวรับ 1,625 / 1,620 จุด แม้จะได้แรงหนุนกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูงจากภาวะสงครามยูเครน-รัสเซียส่งผลให้อุปทานตึงตัว อย่างไรก็ตาม Fund flow ต่างชาติที่ชะลอจากความกังวล FED เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ (Fedwatch คาดขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.5% ในการประชุมเดือนมิ.ย. , ก.ค. และ ก.ย.) จะกดดันต่อทิศทางการลงทุนในช่วงนี้

วันนี้ (8 มิ.ย.) ติดตามการประชุมกนง.คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5%

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

• PTTEP TOP IVL SPRC BCP BANPU ราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่น+ ถ่านหิน ทรงตัวระดับสูง
• AOT MINT CENTEL BDMS BH BEM BTS CPALL CPN  AMATA  อานิสงส์การเปิดประเทศ
• TU ASIAN GFPT กลุ่มส่งออกได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า

หุ้นแนะนำวันนี้

• PTTEP (ปิด 169 ซื้อ/เป้า 185 บาท) คาดหวังราคาน้ำมันดิบยังเป็นขาขึ้นจากภาวะซัพพลายน้ำมันดิบตึงตัว OPEC+ เพิ่มปริมาณการผลิตไม่น่ากังวลเพราะเป็นระดับการผลิตที่ค่อนข้างต่ำยังไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งคลายล็อกดาวน์
• TOP (ปิด 59.5 ซื้อ/เป้า 63 บาท) คาดความต้องการใช้น้ำมันดิบและสำเร็จรูปในภูมิภาคเพิ่มขึ้นหลังจากจีนคลายล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่ 1 มิ.ย. และเริ่มคลายล็อกดาวน์กรุงปักกิ่งตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นบวกต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่น

บทวิเคราะห์วันนี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

• (+) ดาวโจนส์บวก 264 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน: ราคาน้ำมันดิบที่ยังเป็นขาขึ้นอันเป็นผลจากภาวะซัพพลายตึงตัวหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจพลังงานคล้ายกับบ้านเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนกลับมาเพิ่มขึ้น 264 จุด (+0.8%) ปิดที่ระดับ 33,180 จุด นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่ม Tech หลังจากที่ US bond yield เริ่มพักตัวและลดต่ำกว่าระดับ 3%
• (+/-) วันนี้ติดตามประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.5% ตามเดิม: เราคงมุมมองเดิมโดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) จะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ตามเดิม โดยมีเป้าหมายเพื่อเอื้อและสนับสนุนให้ ศก. ฟื้นตัว ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเป็นผลจากแรงผลักดันทางด้าน supply ไม่ใช่ Demand การขึ้นดอกเบี้ยจึงไม่ใช่เครื่องมือที่จะกดดันให้เงินเฟ้อลดลงได้
• (+/-) พรุ่งนี้ ECB Meeting คาดยกเลิก QE และ ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%: คณะกรรมการนโยบายการเงินของยุโรป (ECB) จะประชุมกันในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) เราคาดว่า ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และยกเลิกมาตรการ QE เพื่อควบคุมเงินเฟ้อหลังจากล่าสุดอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนพุ่งแตะระดับ 8.1% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดรับรู้กับปัจจัยนี้ไปแล้วจึงไม่น่ากังวล