กลุ่มอุตสาหกรรม | ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ |
หุ้น | IVL |
มูลค่าพื้นฐาน | 70.00 |
คำแนะนำ | BUY |
คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 4Q17 จะลดลง 5% qoq แต่เพิ่มขึ้น 69% yoy
เราคาดว่ากำไรของ IVL ใน 4Q17 จะอยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท ลดลง 5% qoq เนื่องจากมีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน โดย IVL ได้ทำการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน PX (720k ตัน) ในสหรัฐเป็นเวลาสองเดือน และโรงงาน PTA (600k ตัน) ในแคนาดาเป็นเวลาห้าสัปดาห์ ผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน PTA จะทำให้ปริมาณยอดขายลดลง 2% qoq เหลือ 2.34 ล้านตัน แต่จะถูกชดเชยบางส่วนด้วยปริมาณยอดขาย PET ที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะมีกำไรจากสต็อก 530 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้การที่สหรัฐปรับอัตราภาษีใหม่คาดว่าจะทำให้ IVL มีกำไรพิเศษจากการกลับรายการ DTL ประมาณ 3 พันล้านบาทใน 4Q17 ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมน่าจะออกมาประมาณ 7.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 111% qoq และ 150% yoy
MEG อาจจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้าง upside ให้ประมาณการของเรา
ราคา MEG ในเอเซียเพิ่มขึ้น US$80 ใน 4Q17 เป็น US$1,060/ton ในขณะที่ spread ของ MEG (เมื่อเทียบกับ ethylene) ก็เพิ่มขึ้น US$34 เป็น US$305/ton ทั้งนี้ IVL มีกำลังการผลิต MEG ในสหรัฐ 300k ตัน ในขณะที่บริษัทต้องใช้ MEG ถึง 1.6 ล้านตันเพื่อผลิต PET ถึงแม้ราคา MEG จะสูงขึ้น แต่ IVL ก็สามารถส่งผ่านไปที่ราคา PET ได้ เพราะตลาด PET ตึงตัวจากการที่ผู้ผลิต PET บางราย (M&G และ JBF) ประสบปัญหาทางการเงิน เราคาดว่า MEG จะยังตึงตัวในปีนี้ เนื่องจากอุปทานใหม่เพิ่มขึ้นไม่มาก (+188k tons) ในสหรัฐ ในขณะที่อุปสงค์เพิ่มขึ้นถึง 1.0-1.2 ล้านตันต่อปี เราคิดว่า MEG อาจจะเป็น upside ของประมาณการของเราในปีนี้
แนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ที่ 70 บาท
เราประเมินราคาเป้าหมาย DCF ที่ 70 บาท คิดเป็น P/E ปี FY18F ที่ 20x โดยปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนราคาหุ้น IVL ในอีก 12 เดือนข้างหน้าได้แก่ ปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น, margin ที่เพิ่มขึ้น, และการเข้าซื้อกิจการอื่นเพิ่มอีก นอกจากนี้ การขยายธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์ HVA ในอุตสาหกรรมยานยนตร์ (ผ่านการเข้าซื้อกิจการ Glanzstoff) และ PET film (DTF) ก็จะช่วยให้คุณภาพของกำไรดีขึ้น