FTE - กำไรโตโชติช่วงชัชวาล (TP Bt4.5, OUTPERFORM)
(22/09/2017 - 08:35)
กลุ่มอุตสาหกรรม พาณิชย์
หุ้น FTE
มูลค่าพื้นฐาน 4.50
คำแนะนำ BUY
  • ผู้นำในธุรกิจป้องกันอัคคีภัย ซึ่งมีความได้เปรียบในการแข่งขันจากความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์ระดับแนวหน้ายาวนานถึง 17 ปี
  • คาดว่ากำไรจะโตถึง 25% CAGR ในช่วงปี FY16-FY19F จากการขยายตัวของการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนภาคเอกชน
  • แนะนำให้ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 4.50 บาท อิงจาก P/E ปี FY17F ที่ 22.5x ซึ่งถือว่าไม่แพง และยังมี discount จากค่าเฉลี่ยของกลุ่มอยู่ถึง  25%

 

ผู้เล่นอันดับหนึ่งในตลาดการป้องกันอัคคีภัยซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดถึง 18%

FTE เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย เครื่องดับเพลิง และระบบเตือนอัคคีภัยระดับแนวหน้าของประเทศไทย นอกจากนี้ยังให้บริการออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษาให้กับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากอุปกรณ์และระบบป้องกันอัคคีภัยมีแบรนด์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับจากนักออกแบบ และเจ้าของโครงการค่อนข้างจำกัด ดังนั้น การที่ FTE มีความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์ต่างๆ มายาวนานกว่า 17 ปีถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญของบริษัทเหนือคู่แข่ง โดยในปัจจุบัน FTE ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดจำหน่าย (exclusive) สินค้าแบรนด์ระดับโลกถึง 10 แบรนด์ และเป็นผู้จัดจำหน่ายร่วมกับ HARN อีก 5 แบรนด์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 41-69% ของรายได้รวมของ FTE และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25-27% สำหรับธุรกิจบริการ มีผู้เล่นน้อยรายที่ให้บริการออกแบบและติดตั้งระบบดับเพลิง เนื่องจากจะต้องอาศัยความชำนาญพิเศษ และในบางกรณีต้องมีใบรับรองถึงจะรับดำเนินการได้ ธรกิจนี้สร้างรายได้ให้กับบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 31% ของรายได้รวม โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 23-26%

 

ได้อานิสงส์จากจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนภาคเอกชน

ธุรกิจบริการของ FTE จะได้อานิสงส์โดยตรงจากการขยายตัวของการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนภาคเอกชน ในขณะที่ธุรกิจการขายสินค้าของบริษัทก็น่าจะได้อานิสงส์จากการขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยที่ขึ้นตามแนวรถไฟฟ้า และการก่อสร้างในต่างจังหวัด โดยเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคม บริษัทมี backlog ในมือ 450 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในจำนวนนี้จะรับรู้เป็นรายได้ใน 301 ล้านบาทใน 2H17 เราคาดว่ารายได้จากธุรกิจการขายสินค้าจะโตปีละ 3.6-4.2% ในช่วงปี FY16-19F ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมที่ 4-5% ในขณะที่คาดว่ารายได้จากธุรกิจบริการจะโตได้ถึง 77% yoy ในปี FY17F นำโดยรายได้จากโครงการของ กฟผ. ทั้งนี้ เราใช้สมมติฐานว่าในปี 2560-61 FTE จะสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดงานป้องกันอัคคีภัยเอาไว้ได้ที่ 18% (จาก 1-5% ของมูลค่าโครงการ) ในขณะที่การลงทุนภาครัฐน่าจะขยายตัว 13-15% ต่อปี ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้จากการให้บริการของบริษัทให้โตได้ถึง 36%/31% ในปี FY18F/19F ซึ่งในจำนวนนี้ 43%/41% จะมาจากโครงการของ กฟผ. เราคาดว่าอัตรากำไรสุทธิ (net margin) จะเพิ่มขึ้นเป็น 12%-13% ในปี FY17-19F จาก 10% ในปี FY16 จากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น และ operating leverage ที่เกิดจากปริมาณยอดขายและรายได้บริการที่สูง

 

หุ้น small-cap ที่ถูกมองข้าม ซึ่งจะได้อานิสงส์จากการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน

ราคาเป้าหมายของเราอิงจาก P/E ปี  FY17F ที่ 22.5x เท่ากับค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นกลุ่มการพาณิชย์, วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร, และรับเหมาก่อสร้าง เราคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจะโตได้ถึง 25% CAGR ในช่วงปี FY16-19F คิดเป็น PEG ที่ 0.7x PEG และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4.7% ทั้งนี้ ด้วยทีมบริหารที่แข็งแกร่งซึ่งใช้เวลาเพียงแค่สามปีในการไต่ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจ ทำให้เรามองว่า FTE น่าจะยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก