จากการฉีดวัคซีน COVID-19 ทั่วโลก เราคาดจะมีการเปิดประเทศใน 2H21 และช่วยปลดล็อค pent-up demand ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ BH จากทั้งคนไข้ชาวไทยและต่างชาติ (มากกว่า 360 รายรอเดินทางมารักษา) และการเติบโตรายได้ผ่านพันธมัตร  เราปรับคาดการณ์กำไรขึ้น 4% สำหรับปี 2021F และ 7% สำหรับปี 2022F และราคาเป้าหมายสู่ 161บาท โดยมีผลตอบแทนรวมสูงถึง 28% คงคำแนะนำ ซื้อ   

เห็นโอกาสการฟื้นตัว

ขณะนี้มีการฉีดวัคซีน COVID-19 ทั่วโลกแล้วกว่า 213.6ล้านโดส และวัคซีน 2 แสนโดสจาก Sinovac ได้ถึงประเทศไทยแล้ว เราคาดว่าวัคซีนพาสปอร์ตจะช่วยผ่อนคลายข้อบังคับการเดินทางใน 2H21 และช่วยนำการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงปลดล็อค pent-up demand ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้จากทั้งคนไข้ชาวไทยและต่างชาติ  ในปี 2020 รายได้จากต่างชาติของ BH ลดลง 48% สู่ 6.4พันลบ. แต่เราคาดว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้หลังการเปิดประเทศ ได้รับการสนับสนุนจากคนไข้ชาว ต่างชาติที่ต้องการการดูแลสูง ซึ่งมากกว่า 360 รายรอเข้ารับการรักษา และ BH มีชื่อเสียงเป็นรพ.อ้างอิง (รายได้เพิ่มขึ้น 24% สู่ 784ลบ. หรือ 6% ของรายได้รวม)

โอกาสชัดเจนขึ้นในการเติบโตจากรพ.พันธมิตร

BH มีความร่วมมือกับ PRINC ในการขยายศูนย์ความเป็นเลิศ (CoE) หลังจากมีผู้ถือหุ้นใหญ่รายเดียวกัน นอกจากนี้ BH ยังมองหาพันธมิตรรายอื่น และพยายามเพิ่มจำนวน CoE นอกจากกระดูกสันหลังและข้อต่อ BH วางแผนเพิ่ม CoE เป็น 9 แห่งปีนี้โดยจะเปิด 4 สาขาในปีนี้ ซึ่งรวมถึงศูนย์มะเร็งที่ รพ.พรินซ์อุบลและรพ.พิษณุเวช โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทเปิด CoE 5 แห่งกับรพ.พรินซ์, รพ.นครธน และรพ.เอกชล ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี กลยุทธนี้จะช่วยให้ BH สามารถเจาะตลาดกลุ่มรายได้ปานกลางได้รวดเร็วขึ้นโดยใช้งบลงทุนเพียงเล็กน้อย เราคาดว่าจะมี CoE ใหม่ 4 แห่งต่อปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของ BH ในอนาคต

ปรับคาดการณ์กำไรขึ้น คงคำแนะนำ ซื้อ

เราปรับคาดการณ์กำไร BH ขึ้น 4% สู่ 2.3พันลบ. ในปี 2021 และ 7% สู่ 2.8พันลบ. สำหรับปี 2022 สนับสนุนโดยรายได้ต่อบิลที่สูงกว่าคาด ค่าใช้จ่ายลดลง 270ลบ. และจากการประหยัดจากขนาด เราคาดว่ารายได้จะกลับสู่ระดับก่อน COVID ในปี 2025 ประกอบกับการปรับเพิ่มอัตราเติบโตระยะยาว 50bps สู่ 2% เราปรับราคาเป้าหมาย ขึ้นสู่ 161บาทจาก 128บาท คิดเป็นผลตอบแทนรวมสูงถึง 28% แนะนำ ซื้อ