GFPT - เริ่มได้รับผลลบจากเหตุเพลิงไหม้ (TP Bt14.00, HOLD)
(16/01/2020 - 09:20)
กลุ่มอุตสาหกรรม เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร
หุ้น GFPT
มูลค่าพื้นฐาน 14.00
คำแนะนำ HOLD

เราคาดว่ารายได้ใน 4Q19F จะทรงตัว yoy อยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท ในขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 249 ล้านบาท (+3% yoy, -34% qoq) เรายังคงมีมุมมองเป็นบวกกับธุรกิจไก่แปรรูปและไก่แช่เย็นแช่แข็งในปี  2563 แต่คาดว่ากำลังการผลิตที่ลดลงจากเหตุเพลิงไหม้จะจำกัดการเติบโตของ GFPT  เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี FY20F ลง 3% เหลือ 1.25 พันล้านบาท หลังจากปรับมาใช้สมมติฐานค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 14.00 บาท (จากเดิม 14.50 บาท) อิงจาก EPS ปี FY20F ที่ 14x

 

เหตุเพลิงไหม้ส่งผลกระทบกับการผลิต

เหตุเพลิงไหม้เมื่อ ต.ค. 62 ส่งผลกระทบกับสายการผลิต 2 ใน 5 สาย ส่งผลให้กำลังการผลิตลดลงเดือนละ 800 ตัน คิดเป็น 7% ของกำลังการผลิตทั้งปี 140,000 ตัน ทั้งนี้จากข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทย ปริมาณยอดขายผลิตภัณฑ์ไก่ภายในประเทศเดือน ต.ค.-พ.ย. 62 เพิ่มขึ้น 8% yoy และปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น 6% yoy ดังนั้น เราจึงคาดว่ารายได้จากยอดขายของบริษัทใน 4Q19F จะอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท (ทรงตัว yoy) ในขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 249 ล้านบาท (+3% yoy, -34% qoq) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น yoy จะมาจากการที่ค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง และมีผลขาดทุนลดลงจากการขายไก่รุ่นปู่ย่าพันธุ์และไก่พ่อแม่พันธุ์ ส่วนกำไรที่ลดลลงอย่างมาก qoq จะมาจากผลกระทบของกรณีเพลิงไหม้และปัจจัยฤดูกาล

 

GFPT จะพลาดวัฏจักรขาขึ้นในปีนี้

ในระยะ 3 ปีข้างหน้า เราคาดว่าอุปสงค์ต่อเนื้อไก่ในประเทศจะเพิ่มขึ้น 2-3% ต่อปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจ fast food โตเฉลี่ยปีละ 3-4% ในขณะที่คาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์จากไก่ก็จะเพิ่มขึ้น 4-5% ต่อปี จากการระบาดของโรค ASF ซึ่งน่าจะใช้เวลา 2-3 ปีในการแก้ไข ทำให้อุปสงค์ต่อเนื้อไก่เพิ่มขึ้นในฐานะสินค้าแทนกันที่ให้โปรตีน อย่างไรก็ตามบริษัทต้องใช้เวลาประมาณ 9 เดือนเพื่อซ่อมแซมสายการผลิต 2 สายที่เสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ โดยเราคาดว่าสองสายการผลิตนี้จะกลับมาเปิดดำเนินการได้หลังเดือน ส.ค. 63 โดยงบลงทุนที่ใช้จะมาจากค่าสินไหมประกันประมาณ 300 ล้านบาท (ไม่มีประกันสำหรับความเสียหายที่เกิดจากการที่ธุรกิจต้องหยุดชะงัก) ซึ่งหมายความว่า GFPT จะพลาดวัฏจักรขาขึ้นในปี 2563

 

คงคำแนะนำถือ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 14 บาท (จากเดิม 14.50 บาท)

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี FY19F และ FY20F ลง 2% และ 3% เหลือ 1.19 พันล้านบาท และ 1.25 พันล้านบาท ตามลำดับจากการปรับมาใช้สมมติฐานค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเป็น 31 บาท/USD และ 30 บาท/USD จากเดิมที่ 31.50 บาท/USD ถึงแม้ว่าเราจะยังมองบวกกับแนวโน้มธุรกิจไก่ในปี 2020 แต่กำลังการผลิตที่ลดลงก็จะจำกัดการเติบโตของ GFPT ดังนั้น เราจึงปรับลดราคาเป้าหมายลง เหลือ 14 บาท (จากเดิม 14.50 บาท) อิง EPS ปี FY20F ที่ 14x