ความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะกำหนดทิศทางราคาพลังงานในสัปดาห์นี้
(17/09/2019 - 10:50)
  • ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงในทุกตลาดเนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลกับภาวะอุปทานตึงตัวหลังสหรัฐเตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.95%wow ปิดที่ระดับ 54.85 USD/bbl ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 2.45%wow ปิดที่ระดับ 60.63 USD/bbl อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันพุ่งแรงตั้งแต่ต้นสัปดาห์รับข่าวแหล่งผลิตน้ำมันดิบในซาอุฯถูกโดรนติดอาวุธโจมตี ส่วนช่วงเวลาที่เหลือของสัปดาห์คาดว่าจะค่อยๆอ่อนตัวลงหลังจากที่พุ่งแรงรับข่าวไปแล้ว และอยู่บนสมมติฐาน คือ 1)ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเพิ่มเติ่ม 2) ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้รุนแรงอย่างที่ตลาดวิตกและสามารถกลับมาผลิตได้ในระยะเวลาอันใกล้ และ 3) ซาอุฯและสหรัฐนำน้ำมันสำรองทางยุทธศาตร์ออกมาใช้เพื่อลดความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาด 
  • ค่าการกลั่น ณ โรงกลั่นสิงคโปร์ ปิด ณ วันที่ 13 ก.ย. 19 ที่ระดับ 9.02 USD/bbl เพิ่มขึ้น 44.78%wow จากตัวเลขสต๊อกน้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐและสิงคโปร์ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 สัปดาห์นี้คาดค่าการกลั่นจะยังเพิ่มขึ้นและยืนในระดับสูงจากข่าวโรงกลั่นในซาอุฯถูกโดรนติดอาวุธโจมตี
  • ราคาปิโตรฯยังปรับตัวลงจากแรงกดดันของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยราคาเม็ดพลาสติก HDPE ปรับตัวลง 3.26%wow ขณะที่ราคา Naphtha ลดลงในสัดส่วนที่น้อกว่าส่งผลให้ spread ปิโตร(HDPE - Naphtha) ลดลงอีก 5.2%wow