MEDIA SECTOR - VGI เป็นหุ้น laggard (NEUTRAL)
(22/09/2022 - 08:10)

ยอดโฆษณาเดือนสิงหาคมที่รายงานโดย Nielsen ยืนยันมุมมองของเราว่าผลการดำเนินงานของสื่อ OOH และโรงภาพยนตร์ในปีนี้จะพลิกฟื้นจากสองปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ถูกกระทบอย่างหนักจาก COVID สำหรับแนวโน้มในระยะยาว เรามองว่าสื่อ OOH จะชิงส่วนแบ่งตลาดมาจาก TV ได้มากขึ้น โดย PLANB และ VGI จะเป็นสองหุ้นหลักที่ได้อานิสงส์จากแนวโน้มดังกล่าว ทั้งนี้ เนื่องจากหุ้น PLANB วิ่งขึ้นมาแรงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา VGI จึงดูน่าสนใจมากกว่าในแง่ของการเป็นหุ้น laggard ซึ่งยังจะได้แรงสนับสนันจากแนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่งในระยะสั้นด้วย โดยเราคาดว่ากำไรสุทธิของ VGI ใน 2QFY23 จะเพิ่มขึ้น qoq ในขณะที่คาดว่าของ PLANB จะลดลง qoq

 

Nielsen รายงานว่ายอดโฆษณาเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นทั้ง mom และ yoy

ยอดโฆษณาเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 8.57 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% mom และ 27% yoy โดยยอดโฆษณาที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก YoY มาจากสื่อ TV (+10%) โรงภาพยนตร์ (+4947%) และ สื่อ OOH (68%) ในขณะที่ยอดโฆษณาที่เพิ่มขึ้น mom มาจากสื่อ TV (+0.7%) โรงภาพยนตร์ (+40%) และ สื่อ OOH (+1%) ทั้งนี้ เมื่อพิจารณายอดโฆษณา QTD-สิงหาคม พบว่าโรงภาพยนตร์ และ สื่อ OOH เพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq และเมื่อพิจารณาในงวด YTD-สิงหาคม ยอดโฆษณายังคงเพิ่มขึ้น 9% yoy จากสื่อ OOH (+32% yoy) และ โรงภาพยนตร์ (179% yoy) ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะสื่อทั้งสองกลุ่มนี้ได้อานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมืองในปีนี้ แต่ในทางกลับกัน ยอดโฆษณาของสื่อ TV ค่อนข้างนิ่ง yoy ซึ่งอาจเป็นเพราะเสียส่วนแบ่งตลาดไปให้กับสื่อ OOH และสื่อดิจิทัล

 

สื่อ OOH จะได้ประโยชน์ในระยะยาวจากการฟื้นตัวของยอดโฆษณา

เรายังคงมองว่ายอดโฆษณาจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 4Q22 หลังจากที่ถูกกระทบจากผลของเงินเฟ้อไปใน 3Q22 เรายังคงชอบสื่อ OOH มากกว่าสื่อ TV เนื่องจาก i) มีการตัดงบโฆษณาผ่านสื่อ OOH ลงในช่วงปี 2020-2021 แต่งบส่วนนี้จะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และการที่ผู้คนกลับเข้าทำงานในออฟฟิศ และกลับเข้าเรียนในสถานศึกษาตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป ii) เรายังคงคาดว่ายอดโฆษณาผ่านสื่อ OOH ของประเทศไทยจะเติบโตต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อยสามปี เพราะคนไทยใช้เวลาอยู่นอกบ้านนานขึ้น ทั้งนี้ สื่อ OOH คิดเป็นสัดส่วนเพียงแค่ 15% ของยอดโฆษณารวมในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งยังต่ำกว่าของประเทศที่พัฒนาแล้วในเอเชียอย่างเช่น ฮ่องกง (20%) และสิงคโปร์ (17%)

 

VGI ดูน่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น

เราเลือก OOH เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มสื่อ เรายังคงชอบ PLANB มากที่สุดในฐานะที่เป็นหุ้นที่จะได้ประโยชน์โดยตรงจากยอดโฆษณาที่เพิ่มขึ้นของสื่อ OOH แต่เนื่องจากหุ้น PLANB วิ่งขึ้นมาแรงแล้วในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเหลือ upside จำกัดถึงราคาเป้าหมายของเรา ซึ่งหมายความว่าราคาหุ้นได้สะท้อนแนวโน้มบวกในระยะยาวไปพอสมควรแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับในระยะสั้น เราคาดว่าผลประกอบการของ PLANB จะลดลงเล็กน้อยใน 3Q22 เพราะผลกระทบจากเงินเฟ้อที่สูง ในขณะที่คาดว่า ผลประกอบการของ VGI จะดีขึ้นใน 2QFY23 เพราะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากยอดโฆษณาบนรถไฟฟ้า BTS นอกจากนี้ หุ้น VGI ยังมี upside ถึงราคาเป้าหมายของเราที่ 5.50 บาทมากกว่าด้วย