มาตรการ UCEPCOVID Plus อาจจะเป็นลบกับกลุ่มโรงพยาบาล (NEGATIVE)
(09/03/2022 - 08:10)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติมาตรการ UCEPCOVID Plus โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 16 มีนาคม ซึ่งตามแนวทางใหม่นี้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวจะไม่สามารถใช้ UCEPCOVID ได้ จะไม่สามารถเข้ารักษากรณีฉุกเฉินได้ทุกโรงพยาบาล  แต่จะยังได้รับการรักษาฟรีในโรงพยาบาลตามสิทธิของแต่ละบุคคล เราคาดว่าประเด็นนี้จะทำให้ BCH และ CHG มีผู้ป่วยโควิดมาใช้บริการน้อยลง เราเลือก BDMS และ BH เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มเนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำจากนโยบาย UCEPCOVID Plus

 

คณะรัฐมนตรีอนุมัติมาตรการ UCEPCOVID Plus เมื่อวานนี้

ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมเป็นต้นไป ผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวจะไม่สามารถเข้ารับการรักษาแบบฉุกเฉินวิกฤติได้ ดังนั้นผู้ป่วยกลุ่มนี้จะต้องใช้สวัสดิการรัฐตามสิทธิ์ของตนเอง (สิทธิประกันสังคม, สิทธิรักษาพยาบาลของข้าราชการ, สิทธิประกันสุขภาพทั่วหน้า [บัตรทอง]) เพื่อรับการรักษาฟรี ทั้งนี้ รัฐจะส่งเสริมให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้กักตัวอยู่ในบ้าน/ชุมชน หรือใช้บริการ hospital อย่างไรก็ตามผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง และแดงจะยังคงได้รับความคุมครองตามนโยบาย UCEPCOVID เดิม ซึ่งหมายความว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ทุกแห่ง และสามารถส่งต่อไปโรงพยาบาลอื่นได้โดยไม่กำหนดระยะเวลา 72 ชั่วโมงแรก ซึ่งต่างจากนโยบาย UCEP เดิมที่กำหนดให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใดก็ได้ภายใน 72 ชั่วโมง จากนั้นจะถูกส่งต่อไปรักษาพยาบาลตามสิทธิ์สวัสดิการรัฐของตนเอง

 

ผลกระทบเชิงลบต่อโรงพยาบาลที่มีรายได้จาก COVID สูง

  • ตามมาตรการเดิม ผู้ป่วยที่มีสิทธิประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) จะเข้ารับการบริการที่ดีกว่าจากโรงพยาบาลเอกชน แต่ตามมาตรการใหม่ ผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron จะมีอาการไม่รุนแรง (ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว) ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิ์สวัสดิการรัฐของตนเอง ซึ่งมักจะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก ดังนั้น เราจึงคาดว่าจะมีผู้ป่วยมาใช้บริการ BCH, CHG, PYT & Paolo (อยู่ในเครือ BDMS) ลดลง
  • ยังไม่ชัดเจนว่าการเบิกจ่ายค่ารักษาของประกันสังคมจะใช้งบประมาณจากส่วนไหน ซึ่งประเด็นนี้จะทราบเมื่อประกันสังคมประกาศในภายหลัง

แนวทางที่ 1: ประกันสังคมใช้งบจาก UCEPCOVID ซึ่งจะไม่มีประเด็นต้องกังวล แต่ยังไม่แน่นอนว่าจะมีการตั้งงบสำหรับ UCEPCOVID หรือไม่หลังจากที่มีการประกาศให้ COVID เป็นโรคประจำถิ่น (endemic) แล้ว

แนวทางที่ 2: ประกันสังคมใช้งบโรคความเสี่ยงสูง (IPD: RW>=2) หรืองบภาระเสี่ยง (IPD: RW<2)  ซึ่งตามแนวทางนี้ โรงพยาบาลอาจจะได้รับเงินน้อยกว่าที่เรียกเก็บถ้าหากค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกินกว่างบประมาณที่สำนักงานประกันสังคมตั้งไว้ ในแต่ละปีประกันสังคมตั้งงบโรคความเสี่ยงสูง 746 บาท และตั้งงบภาระเสี่ยง 453 บาทของจำนวนสมาชิก (13.1 ล้านคน ณ ม.ค. 2022) และจะใช้งบในแต่ละปีให้หมด

 

เราชอบ BDMS และ BH มากกว่า

BH จะได้รับผลกระทบจากนโยบายใหม่นี้น้อยที่สุดเพราะมีสัดส่วนรายได้จาก UCEPCOVID ต่ำมาก ในขณะที่  BDMS มีสัดส่วนเพียง 8% ของรายได้รวมในปี FY21 เท่านั้น ในขณะที่สัดส่วนรายได้จากบริการที่เกี่ยวกับ COVID ของ BCH อยู่ที่ 56% ของรายได้รวม และของ CHG อยู่ที่ 52% และส่วนใหญ่เป็น UCEPCOVID