จากร้านให้เช่า DVD กลายมาเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งภาพยนตร์อันดับต้นๆของโลก วันนี้เราจะมารู้จัก Netflix กัน 
จุดเริ่มต้น 
Netflix เริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่ปี 1997 ภายใต้คอนเซปต์ ร้าน DVD ให้เช่า ในช่วงแรก พบปัญหาจากการเช่าหนังแผ่น คือ ผู้ใช้บริการลืมเอาไปคืน และทำให้เสียค่าปรับเยอะ
จึงเกิดแนวคิดให้คนเช่าโดยไม่เสียค่าปรับ คือ ให้บริการเช่าแบบเหมาจ่ายรายเดือนสามารถเช่ากี่แผ่นก็ได้ โดยโมเดลนี้ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจค่อนข้างประสบความสำเร็จ และสามารถเอาชนะคู่แข่งที่ผูกขาดตลาดมายาวนานอย่าง Blockbuster ได้
Netflix เป็น Case Study ในการยกตัวอย่างคอนเซปต์ของคำว่า Startup ที่เห็นภาพชัดเจน เนื่องจากการเติบโตได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจแบบ SME ทำไม่ได้
กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ
ในช่วงแรก Netflix ดำเนินธุรกิจในลักษณะของการซื้อลิขสิทธิ์หนัง ซีรี่ส์หรือรายการต่าง ๆ มาฉาย แต่ผู้บริหารมองว่าโมเดลนี้อาจไม่เหมาะในระยะยาว เนื่องจากไม่มีคอนเทนต์เป็นของตัวเอง ต้องซื้อลิขสิทธิ์มาขาย คือ ต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลา หากเกิดเหตุการณ์เจ้าของลิขสิทธิ์อยากเพิ่มราคา หรือไม่ให้เช่าต่อ ก็จะส่งผลกระทบต่อ Netflix เป็นอย่างมาก จึงทำให้ Netflix เริ่มสร้าง Content ของตัวเอง “Netflix Original” เรื่องแรกคือ Orange is the New Black

รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2022

• รายได้รวม 7,970 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.6% YoY
• กำไรสุทธิ 1,440 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.5% YoY
• กำไรต่อหุ้น $3.20 สูงกว่าคาดการณ์ที่ $2.94

Netflix คาดการณ์ไตรมาส 3 ปี 2022

• คาดการณ์รายได้ 7,838 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.7 %YoY
• กำไรสุทธิคาดการณ์ไว้ที่ 961 ล้านดอลลาร์
• จำนวนสมาชิกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบัญชี อยู่ที่ 221.67 ล้านบัญชี
• คาดว่าจะเปิดตัวแพกเกจบริการใหม่แบบมีโฆษณาในช่วงต้นปี 2023