Team Up!
(01/07/2019 - 11:55)

ความคาดหมายว่า Fed จะลดดอกเบี้ย และการส่งสัญญาณนโยบายการเงินผ่อนคลายของธนาคารกลางประเทศหลักอื่น ๆ จะช่วยหนุนให้วัฏจักรเศรษฐกิจรอบปัจจุบันยาวนานขึ้น แม้ว่าการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐจะยังเป็นตัวแปรที่คาดเดาได้ยาก ซึ่งภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สินทรัพย์เสี่ยงจะได้อานิสงส์จากท่าที “synchronized dovishness” ของธนาคารกลางต่าง ๆ สำหรับในประเทศไทย การที่พรรคการเมืองต่าง ๆ ในประเทศไทยจับมือกันตั้งรัฐบาลที่ทำหน้าที่ได้แปลว่าจะมีนโยบายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการฟื้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการบริโภค เราชอบหุ้นที่จะได้รับอิทธิพลจากการบริโภคในประเทศ กระแสเงินทุนไหลเข้า และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเราเลือก AP, CPALL, GLOBAL, VGI และ WORK เป็นหุ้นเด่นของเราใน 3Q19

 

วัฏจักรการขยายตัวทางเศรษฐกิจรอบล่าสุดคาดว่าจะกินเวลานานขึ้น

ผู้กำหนดนโยบายยอมรับออกมาแล้วว่าเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวลง ในขณะที่ความคาดหมายของอัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศก็ลดลงซึ่งเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ดังนั้น ธนาคารกลางหลายแห่งจึงปรับท่าทีมาเป็น dovish มากขึ้น โดยเฉพาะ Fed ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนน่าจะเริ่มเห็นผลในไตรมาสต่อ ๆ ไป ดังนั้น เมื่อพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ แล้ว เราคาดว่าหุ้นน่าจะ outperform สินทรัพย์อื่น ๆ ได้ในระยะต่อไป ทั้งนี้ จากความคาดหมายว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในโลกจะแข็งแกร่งมากขึ้น จึงมีการคาดว่าดัชนี US dollar index จะยังอ่อนตัวอยู่ที่ 94-95 เรายังคงมุมมองว่ากระแสเงินทุนจะยังคงไหลเข้าตลาด emerging market ต่อไปโดยเฉพาะตลาดไทย

 

ความสำคัญเร่งด่วนของประเทศไทยคือการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

ประเทศไทยต้องใช้สมมติฐานว่าความเสี่ยงจากภายนอกจะเร่งตัวขึ้น ซึ่งหมายความว่าการหนุนเศรษฐกิจในประเทศ (การลงทุนและการบริโภค) เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ทั้งนี้ แม้ว่าการบริโภคในประเทศ ในช่วงหลังนี้จะขยายตัวในระดับปานกลางแต่ก็ยังถือว่าฟื้นตัวได้ดี ในขณะที่การบริโภคจะอ่อนไหวกับมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล ในขณะเดียวกัน เราก็คาดว่ารัฐบาลจะพยายามเร่งการลงทุนภาครัฐเพื่อสร้าง crowding-in effect ซึ่งจะกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน

 

หุ้นไทยยังอยู่ในจุดที่น่าลงทุน เราปรับเป้า SET สิ้นปีเป็น 1850

หุ้นไทยยังคงน่าสนใจในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจาก (1) ปัจจัยภายนอกยังมีความผันผวนสูง – การเจรจาทางการค้า, ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (geopolitical risk) และ Brexit (2) กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าตลาดไทยในภาวะที่ค่าเงิน USD อ่อนลง และ (3) รัฐบาลออกมาตรการตามที่พรรคต่าง ๆ หาเสียงเอาไว้เพื่อกระตุ้นการบริโภค และความเชื่อมั่นของนักลงทุน เราคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะช่วยหนุนให้ SET ขยับขึ้นไปที่ระดับ PER เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง +1.6 S.D. หรือ 1850 จุด ภายในสิ้นปีนี้

 

หุ้นเด่นใน 3Q19: AP, CPALL, GLOBAL, VGI และ WORK

เราเลือกหุ้นที่ (i) จะได้รับอิทธิพลอย่างสูงจากเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะไม่ถูกกระทบจากความผันผวนของปัจจัยภายนอกมากนัก (ii) จะได้อานิสงส์จากกระแสเงินทุนไหลเข้าจากต่างชาติ และ (iii) จะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งเราคาดว่าหุ้นพวกนี้น่าจะ outperform ตลาดได้ใน 3Q19