January 18, 2019
(18/01/2019 - 08:35)

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้น 2.89 จุด (+0.18%) ปิดที่ 1,580 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.1 หมื่นล้านบาท ตอบรับปัจจัยบวกจีนเตรียมออกมาตรการทั้งการเงินการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ประกอบกับคลายความกังวลภาวะการเมืองอังกฤษ หลังสภาอังกฤษลงมติไว้วางใจต่อรัฐบาลนายกฯเมย์ อย่างไรก็ตามความกังวลภาวะ Shudown สหรัฐยังคงกดดันให้ดัชนีดีดตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 อีก 528 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 2,044 ล้านบาท รวมทั้ง Net Long TFEX 6,851 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index พักตัวในกรอบ 1,570 – 1,590 จุด โดยแม้ว่าจะได้ข่าวบวกจากคณะทำงานปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งอาจเป็นการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทหรือทั้งหมดซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของการเจรจาการค้าและส่งผลให้ Trade war ผ่อนคลายลง นอกจากนี้ Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้น 6 วันต่อเนื่องราว 8 พันลบ.จะเป็น sentiment บวกต่อดัชนีเช่นกัน อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงขายกลุ่มธนาคารกดดันตลาด เนื่องจากผิดหวังผลประกอบการกำไร 4Q18 ของ KBANK และ SCB ที่ออกมาต่ำกว่าคาดจากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น ประกอบกับความกังวลสถานการณ์ Shutdown ของสหรัฐยังคงยืดเยื้อเป็นวันที่ 28 ซึ่งส่งผลให้ดัชนีมีความผันผวน

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy  

  • กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปีและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ
  • หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน (BEM, BGRIM, TPIPP และ TTW)
  • กลุ่มอาหาร (TU , ASIAN) EU ปลดธงเหลืองต่อการนำเข้าสินค้าประมงของไทย  (CPF GFPT) อานิสงส์ราคาไก่และ By product ปรับตัวขึ้น
  • กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19

หุ้นแนะนำวันนี้ : BGRIM (ปิด 27.75 ซื้อ/เป้า 33) มีโอกาสได้ข้อสรุปเรื่องต่อสัญญาโรงไฟฟ้าเดิมที่จะหมดอายุ (ประชุมวันจันทร์ที่ 24 ม.ค.) ขณะที่ระยะกลางถึงยาวมี Growth story จากเมกะวัตต์ที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม, SVI (ปิด 5.15 ซื้อ/เป้า 6.3)  คาดมีกำไรปกติ 4Q18 ที่ 270 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1%qoq และ 65%yoy จากยอดขายเพิ่มขึ้น 6%qoq และ 35%yoy ขณะที่ GPM Stable ที่ระดับ 9.6% BDMS (ปิด 23.6 ซื้อ/เป้า 30 บาท) เก็งกำไรข่าวกระทรวงสาธารณสุขไม่เห็นด้วยกับแนวทางการกำหนดให้ยาและบริการทางการแพทย์เป็นสินค้าควบคุม เนื่องจากทำได้ยากในการปฏิบัติ และอาจจะขัดต่อข้อกฏหมาย

Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS

KSS report วันนี้ : KCE (ปิด 28.5 ซื้อ/เป้าใหม่ 33 จาก 37), KTC (ปิด 28.25 ซื้อ/เป้าใหม่ 37 จาก 42), PSL (ปิด 7.7 ถือ/เป้าใหม่ 8.2 จาก 11.5)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :         

  • (+) Trade war เริ่มเห็นสัญญาณบวก ล่าสุดมีข่าวสหรัฐเตรียมลดระดับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน : นาย สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯเสนอยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนบางส่วนหรือทั้งหมด เพื่อคลายกังวลให้กับตลาดและเพิ่มความเป็นไปได้ในการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีนซึ่งเป็นเป้าหมายที่สหรัฐต้องการมากที่สุด ที่มีความสำคัญมากกว่า อย่างไรก็ตามรายงานข่าวดังกล่าวเป็นเพียงแนวคิดที่อยู่ในขั้นตอนของการหารือเท่านั้น หากแนวทางดังกล่าวเป็นจริงเชื่อว่าจะส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มส่งออก, การขนส่งทางเรือ และ กลุ่ม Global play
  • (-) น้ำมันดิบพักตัว จากข่าวสหรัฐเดินหน้าผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น และปีหน้าจะกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันสุทธิ : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 52.07 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก EIA รายงานตัวเลขการผลิตน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐเพิ่มอีก 200,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 11.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมีการคาดการณ์ว่าการผลิตจะเพิ่มเป็น 12 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และจะทำให้สหรัฐกลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบสุทธิในปี 2020 สร้างความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด
  • (-) กลุ่มธนาคารน่าผิดหวัง SCB, KBANK นำทีมประกาศงบ 4Q18 ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดไว้จากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญเพิ่มขึ้น : โดย SCB มีกำไรสุทธิ 4Q18 ที่ 7,084 ล้านบาท ลดลง 33%qoq และ 23%yoy ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 27.5% ส่งผลให้ทั้งปีมีกำไรสุทธิ 40,068 ล้านบาทลดลง 7%yoy ส่วน KBANK มีกำไรสุทธิ 4Q18 ที่ 7,032 ล้านบาท ลดลง 28%qoq แต่เพิ่มขึ้น 23%yoy ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 11% ผลกำไรที่อ่อนแอของ SCB และ KBANK หลักๆมาจากการลดลงของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจากยกเลิกค่าธรรมเนียมธุรกรรมออนไลน์และแอพพลิเคชั่น มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการลงทุนด้าน IT และ ระบบ อีกทั้งยังมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจ และการมุ่งปล่อยสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันมากขึ้น
  • (+) กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP สัปดาห์หน้าลุ้น กพช.อนุมัติแผน PDP ฉบับใหม่ และอนุมัติต่ออายุสัญญาโรงไฟฟ้า SPP เลือก BGRIM เป็น top pick : ในวันที่ 24 ม.ค.คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) จะจัดประชุมเพื่อพิจารณาแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับใหม่ (2561-2580) และ พิจารณาต่ออายุสัญญาโรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ที่จะสิ้นสุดสัญญาในช่วงปี 60-68 คาดเป็น Sentiment บวกต่อผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า SPP อาทิ BGRIM GULF โดยมี BGRIM เป็น Top pick ของกลุ่ม