December 13, 2018
(13/12/2018 - 08:50)

ตลาดหุ้นวานนี้ : ผิดคาด SET Index ปิดบวกเพียง +1.26 จุด (+0.08%) ปิดที่ 1,635 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.64 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก Fund Flow ต่างชาติยังไหลออก โดยวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 อีก 1,771 ล้านบาท และ Net Short TFEX ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 อีก 2,700 สัญญา แต่พลิกกลับมาซื้อในตลาดพันธบัตร 2,662 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index แกว่งตัว 1,630-1,645 จุด โดยภาวะตลาดได้ปัจจัยบวกจากการคลายความกังวลข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน หลังจีนเตรียมเปิดทางให้บริษัทต่างชาติเข้าสู่ตลาดจีนมากขึ้นด้วยการทบทวนนโยบาย “Made in China 2025” อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงอีกครั้งหลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล ประกอบกับมุมมองเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลงหลังรมว.คลังเผยทิศทางเศรษฐกิจไทยจะไม่ขยายตัวเหมือนครึ่งปีแรกที่เติบโต 4.8% และแนวโน้ม 4Q18 จะชะลอตัวจาก 3Q18 ที่เติบโตได้ 3.3% รวมถึงคาดว่าเศรษฐกิจปี 2562 จะเติบโตลดลงจากปีนี้แต่ยังขยายตัวมากกว่า 4% ซึ่งจะส่งกระทบต่อคาดการณ์ผลประกอบการบริษัทในตลท. นอกจากนี้ Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องจะเป็นตัวถ่วงต่อทิศทางตลาดในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy เน้น Domestic play

  • กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปี
  • กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) คาดงบ 4Q18 เติบโตต่อเนื่องจากการขยายสินเชื่อและสาขาเพิ่มขึ้น
  • กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกกรอบการเลือกตั้งชัดเจนขึ้น
  • หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน BDMS BCH รวมถึง TTW

หุ้นแนะนำวันนี้ : AAV (ปิด 4.38 ซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 4.83) ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงส่งผลบวกต่อต้นทุนการดำเนินงานลดลง (น้ำมันคิดเป็น 30% ของต้นทุนรวม) มอง AAV ได้ผลบวกมากสุดในธุรกิจสายการบิน เนื่องจากเป็นสายการบินที่ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าราคาน้ำมันไว้น้อยที่สุด (4% ของปริมาณที่ต้องการใช้), CPALL (ปิด 70.75 ซื้อ/เป้า 80) ตัวแทนกลุ่มค้าปลีก โดยสถิติเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุดของไทย กลุ่มค้าปลีกเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดีสุดทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง, STA (16.7 ซื้อ/เป้า 22) เก็งกำไรราคายางเริ่มฟื้นตัวเป็นบวกต่อธุรกิจยางธรรมชาติ ส่วนธุรกิจถุงมือยางยังทำกำไรได้ดีส่งผลให้ผลกำไรรวมยังเติบโตต่อ

Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS

KSS report วันนี้ :  COL (ปิด 24.9 ถือ/เป้า 25 )

ประเด็นสำคัญวันนี้ :         

  • (+) เจรจาการค้า จีน-สหรัฐ ดำเนินไปในทิศทางที่สดใส จีนพร้อมเปิดตลาดให้ต่างชาติและอาจพิจารณาเปลี่ยนนโยบาย Made in China 2025 : American first และ Made in China 2025 ถือเป็นนโยบายเชิงสัญลักษณ์ที่ก่อให้เกิดข้อพิพาททางการค้า แต่สัญญาณดังกล่าวดูผ่อนคลายลงหลังจากที่หนังสือพิมพ์วอลสตรีท รายงานว่า จีนกำลังเตรียมออกนโยบายใหม่เพื่อทดแทนนโยบาย Made in China 2025 ตั้งแต่ต้นปีหน้าซึ่งเป็นนโยบายที่จีนยอมเปิดตลาดให้บริษัทต่างชาติเข้าสู่ตลาดจีนได้มากขึ้น สอดคล้องกับในช่วงที่ผ่านมาที่มีข่าวว่าจีนเตรียมลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐเป็น 15% จาก 40%
  • (+) เทเรซา เมย์ ยังอยู่ต่อ ผลการลงมติได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมด้วยคะแนนเสียง 200 ต่อ 117 เสียง :จากการที่สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมจำนวนมากพากันคัดค้านร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของนาง เทเรซา เมย์ ส่งผลให้วานนี้พรรคอนุรักษ์นิยมต้องจัดให้สมาชิกพรรคลงมติไม่ไว้วางใจนางเทเรซาร์ เมย์ แต่ผลการลงมติปรากฏว่า นางเมย์ยังได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นหัวหน้าพรรคต่อ ด้วยคะแนนเสียง 200 ต่อ 117 เสียง ส่งผลให้ตลาดคลายกังวลต่อภาวะสูญญากาศของ Brexit
  • (+/-) วันนี้ติดตามการประชุม ECB คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ตามเดิม และจะประกาศยุติ QE อย่างเป็นทางการ : เราคงมุมมองเดิมคาดการประชุมของ ECB ในวันนี้จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0% ตามเดิม และเชื่อว่าในวันนี้นาย มาริโอ ดรากี ประธาน ECB จะประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างเป็นทางการในช่วงสิ้นปีนี้ (QE  1.5 หมื่นล้านยูโร/เดือน จะดำเนินไปจนถึงสิ้นเดือนธ.ค.ปีนี้เท่านั้น)