October 19, 2018
(19/10/2018 - 08:25)

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวลง -12.13 จุด (-0.72%) ปิดที่ 1,682 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 46,195 ล้านบาท จากความกังวล FED มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ US Bond yield 10 ปีพุ่งขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงหลุด 70 US/Barrel ก็เป็นแรงกดดันต่อกลุ่มพลังงานและทิศทางตลาดด้วยเช่นกัน   ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,149 ล้านบาท และ Net Short TFEX 6,364 สัญญา แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,699 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาดการณ์ SET ปรับตัวลงทดสอบโซนแนวรับสำคัญ 1,665 – 1,675 จุด จากความกังวล FED มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อรวมถึงรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นและหนุนให้ Fund Flow ต่างชาติมีแนวโน้มไหลออกต่อเนื่องทั้งนี้เป็น Net sell 4.3 หมื่นลบ. MTD. นอกจากนี้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังไม่มีความคืบหน้าโดยล่าสุดสหรัฐระบุว่าจีนทำการค้าอย่างไม่ยุติธรรม และขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงหลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดรวมถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุฯกรณีนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุฯหายตัวไปจะเป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานรวมถึงทิศทางตลาดโดยรวมอีกด้วย

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

  • กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกจากการเลือกตั้ง และบอร์ด EEC อนุมัติ 4 โครงการใหญ่ 4.7 แสนลบ. คาดออก TOR ภายในเดือนต.ค.
  • กลุ่มอิเล็กฯ (KCE, SVI ) กลุ่มอาหาร (GFPT, CPF) คาดกำไร 3Q18 เติบโตจากเงินบาทอ่อนค่า
  • กลุ่ม defensive stock เช่น กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BCH, CHG) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, CKP, EA)

หุ้นแนะนำวันนี้ : KSL (ปิด 3.74 ซื้อเก็งกำไร/เป้าสูงสุด Consensus 4.50) ราคาน้ำตาลในตลาดโลกเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 เดือน ที่ระดับ 13.87 เซนต์/ปอนด์ จากคาดการณ์ Supply น้าตาลของโลกจะปรับตัวลงในปีหน้า(บราซิลเกิดภัยแล้งและเกษตรกรเปลี่ยนไปทำเอทานอล) เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตและขายน้ำตาล (KSL, BRR, KBS)

Top picks ปีนี้ : ANAN, BBL, CPALL, MTC, ROBINS และ SPALI

KSS report วันนี้ : BANPU (ปิด 18.2 ซื้อ/เป้าใหม่ 24 จาก 28), TMB (ปิด 2.24 ปรับลดเป็นถือ/เป้าใหม่ 2.5 จาก 2.7)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 327.23 จุด วิตกสัมพันธ์สหรัฐ-จีน,เฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ. : นักลงทุนกังวลความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอีกครั้ง หลังจากนายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า การเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับจีนยังคงไม่มีความคืบหน้า พร้อมกับระบุว่าจีนทำการค้าอย่างไม่ยุติธรรม และขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย นอกจากนี้ความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังรายงานการประชุมประจำวันที่ 25-26 ก.ย.ของเฟดระบุว่าเฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจสหรัฐ และควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
  • (-) ราคาน้ำมันดิบร่วง $1.10 วิตกสต๊อกน้ำมันพุ่ง ตลาดจับตาสถานการณ์สหรัฐ-ซาอุฯ : สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 68.65 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 6.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ต.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.2 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย กรณีการหายตัวไปของนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดีอาระเบีย โดยล่าสุดนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้ตัดสินใจยกเลิกการเข้าร่วมงานประชุม Future Investment Initiative (FII) ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย
  • (+/-) กลุ่ม Auto – ยอดผลิตและส่งออกรถยนต์หดตัว แต่ยอดขายในประเทศยังเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารที่เน้นสินเชื่อรถยนต์ (TISCO, KKP) : ส.อ.ท.รายงานยอดการผลิตรถยนต์เดือน ก.ย.ที่ 183,191 คัน เพิ่มขึ้น 1%mom แต่หดตัว 3.72%yoy นับเป็นการหดตัว yoy เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 15 เดือน เป็นลบต่อกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (AH, SAT) ด้านยอดส่งออกรถยนต์ทำได้เพียง 104,163 คัน ลดลง13.67%yoy ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เป็นลบต่อ (NYT) อย่างไรก็ตามยอดขายในประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมียอดขายเดือน ก.ย.ทั้งสิ้น 88,668 คัน เพิ่มขึ้น 2.18%mom และ 14.3%yoy นับเป็นการเพิ่มขึ้น yoy ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 21 เป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารที่เน้นสินเชื่อรถยนต์ (TISCO, KKP) โดยเราเลือก TISCO เป็น Top pick ของกลุ่ม