October 16, 2018
(16/10/2018 - 08:50)

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ : SET Index เมื่อวันศุกร์รีบาวด์ +13.27 จุด (+0.79%) ปิดที่ 1,696 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39,660 ล้านบาท ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่ดีดตัวขึ้นหลัง US Bond yield 10 ปีเริ่มทรงตัวและเงินดอลล่าร์เริ่มอ่อนค่าลง นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มแบงค์และไฟแนนซ์หลัง TISCO และ KTC รายงานกำไรสุทธิ 3Q18 เติบโตขึ้น ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,653 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 659 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX 3,359 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาดการณ์ SET Index แกว่งตัว 1,680 – 1,705 จุด เนื่องจากมีความกังวลสถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุฯกรณีการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักข่าวซาอุฯหลังเข้าไปติดต่อธุระที่สถานกงสุลซาอุฯในนครอิสตันบูล ประกอบกับความกังวลสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐหลัง ปธน.ทรัมป์ขู่จะเก็บภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ซึ่งกดดันให้ Fund Flow ต่างชาติยังคงไหลออกต่อเนื่องในตลาด Emerging market กดดันต่อทิศทางดัชนี อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงซื้อดักงบ 3Q18 โดยสัปดาห์นี้กลุ่มธนาคารจะประกาศงบ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงจะเป็นแรงหนุนดัชนีในจังหวะที่อ่อนตัว

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

  • กลุ่มอิเล็กฯ (KCE, SVI ) กลุ่มอาหาร (GFPT, CPF) คาดกำไร 3Q18 เติบโตจากเงินบาทอ่อนค่า
  • กลุ่ม defensive stock เช่น กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BCH, CHG) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, CKP, EA)
  • กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกจากการเลือกตั้ง และบอร์ด EEC อนุมัติ 4 โครงการใหญ่ 4.7 แสนลบ. คาดออก TOR ภายในเดือนต.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้ : KTB (20 ซื้อ/เป้า 23) เราเลือก KTB เป็นหนึ่งใน top pick กลุ่มธนาคารเนื่องจากคาดว่าจะมีผลกำไรเติบโตโดดเด่นที่สุดในปีนี้และปีหน้าประมาณ 30%yoy และ 11%yoy ตามลำดับ เป็นผลจากสินเชื่อภาครัฐที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นและได้ผลบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น, STEC (ปิด 25 ซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 28), AMATA (ปิด 23.9 ซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 28) คาดได้ผลบวกจากข่าว กนอ.เตรียมเปิดประมูลโครงการท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 มูลค่า 5.54 หมื่นล้านบาทในเดือน ต.ค.นี้

Top picks ปีนี้ : ANAN, BBL, CPALL, MTC, ROBINS และ SPALI

KSS report วันนี้ : IHL (ปิด 9.65 ซื้อ/เป้า 11.8), TISCO (ปิด 78.5 ปรับเป็นซื้อ/เป้าใหม่ 95 จาก 90), TWPC (ปิด 8.35 ถือ/เป้า 9)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :

(-) ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวได้ในวันศุกร์แต่กลับมาอ่อนตัวลงในวันจันทร์ จากความกังวลความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า : ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาฟื้นตัวได้ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากคลายกังวลต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลัง Bond yield 10 ปีของสหรัฐเริ่มลดลง อย่างไรก็ตามดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียและดัชนีดาวโจนส์กลับมาลดลงอีกครั้งในวันจันทร์ที่ผ่านมาเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า หลังจากสหรัฐต้องการทำข้อตกลงใหม่กับญี่ปุ่นเพื่อลดการได้เปรียบเรื่องค่าเงิน ขณะเดียวกันสหรัฐยังเตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่ม และเตรียมที่จะประกาศให้จีนติดอยู่ในรายชื่อประเทศปั่นค่าเงินซึ่งจะมีมาตรการลงโทษทางการค้าเพิ่มเติมอีกในภายหลัง

(+) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน - กังวลสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับซาอุฯ หนุนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และมีการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบอาจจะปรับขึ้นสู่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล : ความขัดแย้งระหว่างซาอุฯกับสหรัฐเกิดขึ้น หลังภายที่นาย จามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบียของสำนักพิมพ์วอร์ชิงตันโพสหายตัวไปในระหว่างเข้ายื่นเอกสารที่สถานฑูตซาอุฯในตุรกี ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว นายโดนัล ทรัมป์ ออกมาขู่ว่าจะลงโทษอย่างรุนแรงต่อซาอุฯ หากพบว่าอยู่เบื้องหลัง ขณะที่ซาอุดีอาระเบียประกาศพร้อมตอบโต้อย่างรุนแรงหากถูกโจมตีก่อน โดยนักวิเคราะห์และบทบรรณาธิการของซาอุฯต่างออกมาคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบอาจจะปรับขึ้นทะลุ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหากซาอุฯถูกคว่ำบาตร

(+/-) Bond yield สหรัฐเริ่มลดลง ขณะที่สัปดาห์นี้ติดตาม Fed minute จับสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในช่วงท้ายปีและปีหน้า : ล่าสุด Bond yield 10 ปี ของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 3.16% เทียบกับจุดสูงสุดในสัปดาห์ก่อนที่ 3.25% ช่วยคลายกังวลให้กับตลาดต่อการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรตามสัปดาห์นี้ยังต้องติดตามถึงการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟด (Fed minut) ในวันที่ 18 ต.ค. เพื่อจับสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงท้ายปีและปีหน้าว่าจะเร่งขึ้นเหมือนที่ตลาดกังวลหรือไม่

(+/-) ติดตามการรายงานผลกำไร 3Q18 ของกลุ่มธนาคาร โดยรวมเติบโต yoy แต่อาจจะชะลอตัว qoq เลือก BBL, KTB และ TMB เป็น Top pick : สัปดาห์นี้หุ้นในกลุ่มธนาคารทุกหลักทรัพย์จะประกาศผลประกอบการ 3Q18 ออกมาทั้งหมด โดยรวมผลกำไรคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9%yoy จากยอดสินเชื่อที่ขยายตัวและมีภาระหนี้ NPLs ลดลง อย่างไรก็ตามหากเทียบ QoQ คาดว่าจะหดตัวประมาณ 4% จากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียม โดยแบงก์ใหญ่คาดว่า KTB และ BBL จะมีผลการดำเนินงานโดดเด่นทีสุด ขณะที่ TMB จะมีผลการดำเนินงานโดดเด่นที่สุดของแบงก์ขนาดกลาง