ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงแรง -24.30 จุด (-1.41%) ปิดที่ 1,696 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 59,627 ล้านบาท จากแรงกดดัน Fund flow ต่างชาติไหลออกต่อเนื่องตามคาดการณ์ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งหนุนให้ bond yield US10 ปีพุ่งขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง ส่งผลให้มีแรงขายในกลุ่ม Petro, Energ และ Cons ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,367 ล้านบาท และ Net Short TFEX 5,752 สัญญา อีกทั้งขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 3,244 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาดการณ์ SET Index อ่อนตัวทดสอบแนวรับ 1,680 – 1,690 จุดก่อนจะสลับรีบาวด์ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน อีกทั้งความกังวล Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่อง (Net Sell ตลาดหุ้นไทย 5 วันต่อเนื่องราว 1.4 หมื่นลบ. รวมถึง Net Sell ในตลาดภูมิภาคเอเชีย) ตามคาดการณ์  FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่จะเร่งตัวขึ้น ส่งผลให้ bond yield US10 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.23% และเงินบาทอ่อนค่าลงสู่ระดับ 32.9 Baht/USD ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาด อย่างไรก็ตามข่าวเพลิงไหม้โรงกลั่นขนาดใหญ่ที่สุดในแคนาดากำลังการผลิต 3.2 แสนบาร์เรล/วันจะเป็น sentiment เชิงบวกต่อหุ้นโรงกลั่นซึ่งน่าจะช่วยพยุงดัชนีในจังหวะที่อ่อนตัวได้  

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

• กลุ่มอิเล็กฯ (HANA, KCE, SVI ) กลุ่มอาหาร (GFPT, CPF) ได้ประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า
• กลุ่ม defensive stock เช่น กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BCH, CHG) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, CKP, EA)
• กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกจากการเลือกตั้ง และบอร์ด EEC อนุมัติ 4 โครงการใหญ่ 4.7 แสนลบ. คาดออก TOR ภายในเดือนต.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้ : BLA (34.75 ซื้อ/เป้า 42), คาดได้ผลบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) ที่สูงขึ้น เนื่องจากพอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่ของธุรกิจประกันจะอยู่ในพันธบัตร หาก Bond yield สูงขึ้นจะทำให้กำไรจากพอร์ตลงทุนสูงขึ้นตามไปด้วย, SEAFCO (ปิด 8.9 ซื้อ/เป้า 12) เบอร์หนึ่งของผู้รับเหมางานเสาเข็มและฐานรากของเมืองไทย คาดได้ประโยชน์มากสุดจากภาพรวมงานก่อสร้างที่กลับมาเปิดประมูลกันมากขึ้น ด้าน Backlog มีแล้วกว่า 3,000 ล้านรองรับรายได้ยาวไปถึงกลางปีหน้า, IHL (ปิด 9.55 ซื้อ/เป้า 11.8) ราคาที่ลดลงจากแรงขายของหุ้นวอร์แรนต์แปลงสภาพถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อดักผลกำไรที่ทยอยฟื้นตัว qoq ตั้งแต่ 3Q18 เป็นต้นไป เนื่องจากโรงฟอกหนังเฟสใหม่เริ่มผลิตอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือน ส.ค.หนุนกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัวจาก 1 ล้านชิ้น/เดือน เป็น 1.7 ล้านชิ้น 

Top picks ปีนี้ : ANAN, BBL, CPALL, MTC, ROBINS และ SPALI

KSS report วันนี้ : AEONTS (ปิด 202 ซื้อ/เป้าใหม่ 220 จาก 210), MINT (ปิด 38.25 ซื้อ/เป้าใหม่ 45 จาก 43)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :

(+) ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนช่วง 3 เดือนข้างหน้าพุ่งขึ้นสู่ระดับร้อนแรงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน หุ้นที่น่าสนใจมากที่สุดยังเป็นกลุ่มธนาคาร : สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 120.6 หรือ +12% จากเดือนก่อนหน้า นับเป็นการเพิ่มขึ้นสู่ระดับร้อนแรง (Bullish) เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจต่อทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ และตอบรับต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจยังยกให้หุ้นที่น่าลงทุนมากที่สุดในระยะ 3 เดือนข้างหน้าคือกลุ่มธนาคาร และมองกลุ่ม FASHION ไม่น่าลงทุน

 (+) กลุ่มรับเหมา - รัฐบาลเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐในช่วง 5 เดือน ก่อนเลือกตั้งมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านบาท Top pick STEC, SEAFCO : โดยกระทรวงคมนาคมเตรียมนำเสนอหลายโครงการต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในระหว่างเดือน ต.ค.61-ก.พ. 62 พร้อมเร่งรัดทุกโครงการ โดยเดือน ต.ค.นี้ จะเน้นผลักดันโครงการเร่งด่วนใน EEC เข้า ครม. มูลค่ารวมกว่า 4.7 แสนล้านบาท และโครงการมอเตอร์เวย์ นครปฐม-ชะอำมูลค่า 7.7 หมื่นล้านบาท เดือน พ.ย.จะเร่งผลักดันโครงการลงทุนรถไฟฟ้าชานเมือง อาทิ สายสีแดงเข้ม, แดงอ่อน มูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท และสุดท้ายเดือน ธ.ค.จะเน้นโครงการขยายการลงทุนในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่ารวมกว่า 6.4 หมื่นล้านบาท

(+) กลุ่มโรงกลั่น – ข่าวไฟไหม้โรงกลั่นในแคนนาดาส่งผลบวกต่อ Sentiment ส่วนค่าการกลั่นคาดได้ผลบวกไม่มากเนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างห่างไกลจากเอเชีย : Top pick TOP : จากข่าวโรงกลั่นของบริษัทเออร์วิง ออยล์ของแคนนาดาเกิดเหตุไฟไหม้ ซึ่งโรงกลั่นดังกล่าวมีกำลังการกลั่นประมาณ 320,000 บาร์เรลต่อวัน เรามองว่าข่าวดังกล่าวจะเป็นบวกเพียง Sentiment ต่อกลุ่มโรงกลั่น ส่วนค่าการกลั่นคาดว่าจะได้ผลบวกไม่มาก เนื่องจากเทียบขนาดของโรงกลั่น เออร์วิงออยล์คิดเป็น 0.32% ของกำลังการกลั่นทั้งโลก อีกทั้งพื้นที่ยังห่างไกลจากเอเชีย ทำให้ผลบวกที่จะส่งผลถึงค่าการกลั่นในภูมิภาคค่อนข้างจำกัด