Money Wizard - October 1, 2018
(01/10/2018 - 08:50)

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ : SET Index วันก่อนแกว่งตัวแคบ +3.46 จุด (+0.20%) ปิดที่ 1,756 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 57,174 ล้านบาท เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน ประกอบกับความกังวล FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.ซึ่งส่งผลให้ Fund flow ยังคงชะลอตัวต่อไป อย่างไรก็ตามได้แรงซื้อในกลุ่มไฟแนนซ์, พลังงาน และไฟฟ้าหนุนให้ดัชนีปิดบวกเล็กน้อย ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,220 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 3,685 ล้านบาท รวมทั้ง Net Long TFEX 4,225 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาดการณ์ SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,760 – 1,765 จุด +/- ก่อนจะสลับอ่อนตัวลง เนื่องจากได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนเหนือ 73 US/Barrel จากความกังวลอุปทานน้ำมันที่ลดลงจากสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่านซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน ประกอบกับได้ sentiment เชิงบวกจากค่าเงินบาที่แข็งค่าขึ้นซึ่งจะช่วยหนุนต่อ Fund flow ต่างชาติโดยล่าสุดพลิกเป็น Net Buy 1.2 พันลบ. อย่างไรก็ตามความตึงเครียด trade war ระหว่างสหรัฐ-จีนยังคงยืดเยื้อหลังล่าสุดสหรัฐกล่าวหาว่าจีนพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐที่จะจัดขึ้นในเดือนพ.ย. นอกจากนี้การที่ FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.จะเป็นตัวถ่วงดัชนีให้สลับอ่อนตัว

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

  • กลุ่มเดินเรือ (PSL, TTA) ค่าระวางเรือดีดตัวขึ้น +13 % WoW ล่าสุด 1,540 จุด
  • กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTGC, TOP, PTTEP) ราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง
  • Domestic play รับผลบวกจากการเลือกตั้ง รับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) กลุ่มค้าปลีกที่มีฐานลูกค้าต่างจังหวัด (ROBINS, CPALL, DCC, TK)
  • กลุ่ม defensive stock เช่น กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BCH, CHG) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, CKP, EA)

หุ้นแนะนำวันนี้ : TKN (ปิด 17.4 ซื้อ/เป้า 21.5) คาดกำไร 2H18 จะโตทั้ง yoy และ hoh จากการเข้าสู่ช่วง High season, กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากการเริ่มผลิตของโรงงานใหม่ (เฟส3) และได้ประโยชน์จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลง, IHL (ปิด 9.7 ซื้อ/เป้า 11.8) คาดผลกำไรจะทยอยฟื้นตัว qoq ตั้งแต่ 3Q18 เป็นต้นไป เนื่องจากโรงฟอกหนังเฟสใหม่เริ่มผลิตอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือน ส.ค.หนุนกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัวจาก 1 ล้านชิ้น/เดือน เป็น 1.7 ล้านชิ้น, ROBINS (ปิด 70.5 ซื้อ/เป้า 76) เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่คาดว่าจะได้ผลบวกจากเม็ดเงินหมุนเวียนและสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนเลือกตั้งเนื่องจาก ROBINS มีสัดส่วนรายได้จากฐานลูกค้าในต่างจังหวัดคิดเป็น 40% ของรายได้รวมขณะที่ Valuation ถูกสุดของกลุ่ม (PE 23 เท่าเทียบค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 26-28 เท่า)

Top picks ปีนี้ : ADVANC, ANAN, BEM, BDMS, CHG, CPALL, IVL, MINT, MTC และ QH

KSS report วันนี้ : AAV (ปิด 4.28 ถือ/เป้าใหม่ 4.6 จาก 4.5), ERW (ปิด 8.1 ถือ/เป้าใหม่ 8.2 จาก 7.5)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :

(+) เดือน ก.ย. SET Index เพิ่มขึ้น 2% แต่พอร์ตการลงทุนของเราดีกว่าตลาดให้ผลตอบแทน 8.1% แนวโน้มเดือน ต.ค.คาด SET ไปต่อ ทดสอบ 1,800 จุด กลยุทธ์ Selective buy เน้นเก็งกำไรหุ้นงบ 3Q18 จะออกมาดี หรือ ซื้อกลุ่ม Domestic play ที่ได้ผลบวกจากเศรษฐกิจในประเทศที่แข็งแกร่งและได้ผลบวกจากการเลือกตั้ง อาทิ กลุ่ม ค้าปลีก และ ธนาคาร Top Pick – IHL, ROBINS, SVI, TKN และ : VIBHA เดือน ก.ย. หุ้นในพอร์ตการลงทุนทั้งหมด 5 หลักทรัพย์ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8.1% ชนะตลาดที่ให้ผลตอบแทน 2% โดย AEONTS ให้ผลตอบแทนมากสุด 16.1% ตามด้วย TKN, STEC และ MINT ให้ผลตอบแทน 10.8%, 10.7% และ 3.8% ส่วน DCC น่าผิดหวังให้ผลตอบแทน -0.8 ตามลำดับ ส่วนแนวโน้มเดือน ต.ค. เรายังมองบวกคาด SET Indexจะปรับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,800 จุด โดยมีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศที่แข็งแกร่ง สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ผ่อนคลาย และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตดี เป็น 3 ปัจจัยหนุน กลยุทธ์การลงทุนเดือน ต.ค.ยังเป็น Selective buy โดยเน้นเก็งกำไรหุ้นที่งบ 3Q18 จะออกมาดีรวมถึงเข้าซื้อกลุ่มที่ได้ปัจจัยบวกจาก 3 ปัจจัยข้างต้น อาทิ ค้าปลีกและกลุ่มธนาคาร โดยมี 5 หุ้น Top pick เดือนนี้คือ IHL, ROBINS, SVI, TKN และ VIBHA 

(+) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน – น้ำมันดิบบวกต่อ จากข่าวจีนเริ่มลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน ตอบสนองมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐที่จะเริ่มมีผลตั้งแต่ 4 พ.ย. : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ (+1.6%) ปิดที่ 73.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน และ ราคาน้ำมันดิบ BRENT เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ (+1.2%) ปิดที่ 87.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 4 ปี นักลงทุนยังเชื่อว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ของสหรัฐที่จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.จะส่งผลให้ซัพพลายน้ำมันดิบในสหรัฐลดลง ซึ่งล่าสุดมีกระแสข่าวจีนเริ่มลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านแล้วและคาดว่าประเทศต่างๆจะทยอยลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านเช่นกัน เนื่องจากสหรัฐขู่ว่าหากประเทศใดไม่ปฏิบัติตามจะถูกสหรัฐคว่ำบาตรด้วย

(+) ปัจจัยที่ต้องติดตาม – 4 ต.ค.บอร์ด EEC ประชุมการลงทุน 4 โครงการเร่งด่วน มูลค่ารวมกว่า 3.75 แสนล้านบาท เป็นบวกต่อกลุ่ม นิคมฯและรับเหมาก่อสร้าง : สัปดาป์นี้ในวันที่ 4 ต.ค.บอร์ด EEC จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาการลงทุนใน 4 โครงการเร่งด่วน ประกอบด้วยโครงการ มาบตาพุดเฟส 3, แหลมฉบังเฟส 3, และ สนามบินอู่ตะเภาและศูนย์ซ่อม มูลค่ารวมกว่า 3.75 แสนล้านบาท เบื้องต้นน่าจะได้ข้อสรุปและประกาศเงื่อนไขการประมูล (TOR) ได้ในช่วงเดือน ต.ค.