Money Wizard - July 10 2018
(10/07/2018 - 08:45)

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index เพิ่มขึ้น 8.20 จุด (+0.51%) ปิดที่ 1,623 จุด จากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบัน นำโดยกลุ่มพลังงาน และค้าปลีก อย่างไรก็ตามมูลค่าซื้อขายยังเบาบาง 42,277 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิ 2,545 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 120 ล้านบาท แต่พลิกเป็น Net Long TFEX 3,905 สัญญา เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : เรายังมีมุมมองเป็นบวก คาดดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,630 และ 1,635 จุด โดยได้แรงหนุนจาก Sentiment บวกของตลาดหุ้นต่างประเทศที่เขียวสดใส ตอบรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ประกอบกับนักลงทุนเริ่มคลายกังวลต่อปัญหาสงครามการค้าหลังจากจีนและสหรัฐยังไม่มีมาตรการตอบโต้ทางภาษีเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามคาดการปรับขึ้นของดัชนีจะเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากภาพรวมยังถูกกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติที่ยังไหลออก โดยวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีก 2,545 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ส่งผลให้ YTD มียอดขายสุทธิรวมแล้วกว่า 193,149 ล้านบาท

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

  • กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ (BBL, KBANK, SCB และ KTB) ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในครึ่งปีหลัง
  • BANPU ราคาถ่านหินกำลังขึ้นทดสอบ High ในรอบ 6 ปีครึ่งล่าสุด 116.6 US/Ton
  • PSL, TTA อานิสงส์ค่าระวางเรือทำ High ในรอบ 7 เดือนล่าสุด 1,612 จุด
  • กลุ่มปันผลครึ่งปีเด่น ADVANC, INTUCH, KKP, QH, LH และ SPALI

หุ้นแนะนำวันนี้ : KKP (ปิด 69.75 ซื้อ/เป้า 85) คาดผลกำไร 2Q18 เด่นสุดของกลุ่มธนาคาร เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ 2Q18 ประมาณ 1,437 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 21%yoy นอกจากนี้ KKP ยังเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูงสุดของกลุ่ม (ประมาณ 7-7.5%)  AEONTS (ปิด 168.5 ซื้อ/เป้า 210) เก็งกำไรก่อนประกาศงบ 2Q18 ในวันพุธนี้ เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิประมาณ 800 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 30%yoy, BCH (ปิด 16.3 ซื้อ/เป้า 19) คาดผลประกอบการ 2Q18 ออกมาดีกว่าที่เคยคาดไว้ หลังศูนย์เวิลด์เมดดิคอล สาขาแจ้งวัฒนะ มีจำนวนผู้ป่วยเร่งตัวขึ้นโดยเฉพาะจากกลุ่มตะวันออกกลาง ส่งผลให้ศูนย์ดังกล่าวอาจจะถึงจุดคุ้มทุนเร็วกว่าที่คาดไว้ 

Top picks ปีนี้ : ADVANC, ANAN, BEM, BDMS, CHG, CPALL, IVL, MINT, MTC และ QH

KSS report วันนี้ : AOT (ปิด 66.5 ถือ/เป้า 66), BCH (ปิด 16.3 ซื้อ/เป้า 19), PTTEP (ปิด 134 ถือ/เป้า 145)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :                                           

(+) ดาวโจนส์บวกแรงกว่า 320 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์ เก็งกำไรก่อนประกาศงบไตรมาส 2/18 ออกมาในสัปดาห์นี้ : ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นแรงกว่า  320 จุด (+1.31%) ปิดที่ 24,777 จุด เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคาร เพื่อเป็นการเก็งกำไรก่อนที่ธนาคารหลายแห่งจะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/18 ออกมาในช่วงสัปดาห์นี้ อาทิ เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, ธนาคารเวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป นอกจากนี้ตลาดยังคงตอบรับปัจจัยบวกจากรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยล่าสุด ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 213,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 195,000 ตำแหน่ง

(+) กลุ่มธุริจน้ำมัน - ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่น้ำมันดิบ BRENT เพิ่มขึ้นเกือบ 1$/bbl ตอบรับรายงานการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียที่ลดลง : โดยวานนี้บรรษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) เปิดเผยว่า ปัจจุบันการผลิตน้ำมันภายในประเทศลดลงมาอยู่ที่ระดับ 527,000 บาร์เรล/วัน จากระดับสูงสุดที่ 1.28 ล้านบาร์เรล/วัน อันเป็นผลจากปัญหาเศรษฐกิจและขาดแคลนงบประมาณในการผลิต ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตอบรับในทางบวก โดยเฉพาะน้ำมันดิบ Brent  เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 78.07 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นเพียง 5 เซนต์ ปิดที่ 73.85 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากยังถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันดิบที่สูงขึ้นของสหรัฐ โดย IEA คาดว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11.17 ล้านบาร์เรล/วัน ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้สหรัฐแซงหน้ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก

(+/-) Brexit ยังไม่นิ่ง หลังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจากโครงการนี้ประกาศลาออกถึง 3 ราย : ปัญหาการเมืองในยุโรป และในอังกฤษยังมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะการประกาศถอนตัวของจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) เริ่มมีความไม่แน่นอนขึ้นมาอีกครั้ง หลังมีรายงานว่าบรรดารัฐมนตรีที่ทำหน้าที่รับผิดชอบต่อการ Brexit ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับนาง เทเรซาร์ เมย์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษที่ยอมอ่อนข้อให้กับ EU มากเกินไป โดยรัฐมนตรีที่ประกาศลาออก ประกอบด้วยนายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ, นายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit และนายสตีฟ เบเกอร์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีอีกคนหนึ่งที่รับผิดชอบด้านกิจการ Brexit ขณะที่ล่าสุดนางเทเรซาร์ เมย์ ออกมาเตือนว่าหากอังกฤษยังไม่สามารถเจรจากับ EU กรณี Brexit ได้ อาจจะสร้างความผันผวนทั้งการเมืองและเศรษฐกิจของอังกฤษ และ EU