Money Wizard - July 4 2018
(04/07/2018 - 08:40)

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้น +19.35 จุด (+1.20%) ปิดที่ 1,626 จุด มูลค่าการซื้อขาย 58,567 ล้านบาท จากแรงซื้อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีตามราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นทำ high ในรอบ 3 ปีครึ่ง ประกอบกับแรงซื้อในกลุ่ม Big Cap หลังราคาอ่อนตัวลงจน Valuation น่าสนใจ นำโดยกลุ่ม Cons Trans และ Health  ทั้งนี้ Foreign ขายสุทธิ 3,288 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 4,657 ล้านบาท และ Net Long TFEX 9,860 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : มีมุมมองเป็นกลาง คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,620 - 1,635 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูงเหนือ 74 US/Barrel หลังลิเบียเกิดปัญหาการขนถ่ายน้ำมันซึ่งกระทบต่อการส่งออกน้ำมัน 8.5 แสนบาร์เรล/วัน รวมถึงแรงซื้อการ Preview งบ 2Q18 ที่เริ่มประกาศในช่วงกลางเดือนก.ค. นำโดยกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตามความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าต่างๆยังคงเป็นตัวถ่วงดัชนีโดยวันศุกร์ 6 ก.ค.นี้ สหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมากกว่า 800 รายการ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่จีนจะเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าสหรัฐในวงเงินเดียวกัน นอกจากนี้ Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกรวมถึงเงินบาทที่อ่อนค่าจะเป็นแรงกดดันให้ดัชนีผันผวน

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

  • BANPU ราคาถ่านหินกำลังขึ้นทดสอบ High ในรอบ 1 ปีครึ่งล่าสุด 115.3 US/Ton
  • กลุ่มพลังงาน ( PTTEP, PTT ) ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่งเหนือ 74 US/Barrel
  • กลุ่มอิเล็กฯ ( KCE ) และอาหาร ( CPF, GFPT ) อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าล่าสุด 33.1 Bath/USD
  • กลุ่มผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว อาทิ CPF, BANPU, TKN, EPG, GCAP และ ANAN
  • กลุ่มปันผลครึ่งปีเด่น ADVANC, INTUCH, KKP, QH, LH และ SPALI

หุ้นแนะนำวันนี้ : AEONTS (ปิด 171.5 ซื้อ/เป้า 210) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/18 (มี.ค.-พ.ค.) ประมาณ 802 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 30%yoy จากยอดสินเชื่อที่เติบโตแข็งแกร่งและ NIM ยังทรงตัวในระดับสูง Valuation ยังถูกหากเทียบกับคู่แข่ง (AEONTS มี PE 11.7 เท่าเทียบกับ KTC ที่ 17 เท่า), BANPU (ปิด 20.1 ซื้อ/เป้า 28) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว ระยะสั้นยังได้ Sentiment บวกจากราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้นใกล้แตะจุดสูงสุดของปีที่ระดับ 117$/ton, ORI (ปิด 17.2 ซื้อ/เป้า 23.5) ผลกำไรยังเติบโตต่อเนื่องจากฐาน Backlog ในมือรอโอนสูงกว่า 12,000 ล้านบาท Secured รายได้ในปีนี้กว่า 80%

Top picks ปีนี้ : ADVANC, ANAN, BEM, BDMS, CHG, CPALL, IVL, MINT, MTC และ QH

KSS report วันนี้ : HMPRO (ปิด 14.2 ถือ/เป้า 14), SPA (ปิด 15.3 ซื้อ/เป้าใหม่ 18.5 จาก 22.4)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :                                           

  • (-) ดาวโจนส์ร่วง 132 จุด จากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กังวลภาครัฐออกกฏเข้มงวดในการควบคลุมการรั่วไหลของข้อมูล : เมื่อคืนที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ลดลงแรง 132 จุด ตลาดไม่ได้มีปัจจัยลบที่น่ากังวลในภาพใหญ่แต่เป็นปัจจัยลบเฉพาะตัว เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกังวลกระแสข่าว หน่วยงานต่างๆของสหรัฐกำลังขยายขอบข่ายการสอบสวนกรณีที่แคมบริดจ์ อนาลิติกา ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการเมือง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊ก โดยปัญหาดังกล่าวอาจทำให้ภาครัฐออกมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการทำงานของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีส่งผลให้ต้นทุนด้านต่างๆของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นในอนาคต
  • (+) ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว รับข่าวการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามภายใน : วานนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาเพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 74.14 ดอลลาร์/บาร์เรล เช่นเดียวกับน้ำมันดิบ BRENT เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 77.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดได้แรงหนุนหลังมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของแคนนาดาได้รับผลกระทบจากปัญหาไฟฟ้าดับส่งผลให้การผลิตลดลงประมาณ 360,000 บาร์เรล/วัน และคาดผลกระทบดังกล่าวจะใช้เวลาแก้ปัญหาไปถึงสิ้นเดือนนี้ และยังได้แรงหนุนหลัง บรรษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) ประกาศประสบปัญหาในการส่งออกน้ำมันดิบประมาณ 850,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามภายใน
  • (+) หน่วยงานเศรษฐกิจในประเทศยังมองบวก ทยอยปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้ขึ้น : คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกาศปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 61 เป็น 4.3-4.8% จากเดิม 4.0-4.5% จากการปรับเพิ่มประมาณการส่งออกปีนี้ขึ้น เป็นขยายตัว 7.0-10.0% จากเดิม 5.0-8.0% ส่วนปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจอื่นๆยังแข็งแกร่ง ล่าสุดกระทรวงการคลังรายงานภาระหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน พ.ค. มีจำนวน 6.5 ล้านล้านบาท คิดเป็น 40.78% ของ GDP ซึ่งลดลงเมื่อเทียบจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 41.04% ของ GDP