ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้รีบาวด์ขึ้น +1.70 จุด (+0.10%) ปิดที่ 1,624 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,649 ล้านบาท จากแรงหนุนการทำ Window Dressing ปิดงบ 2Q18 รวมถึงแรงซื้อกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตามความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศต่างๆยังคงกดดันให้ดัชนีดีดตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิเล็กน้อย 76 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 2,644 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX 330 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : มีมุมมองเป็นกลาง-บวก คาดดัชนีรีบาวด์ทดสอบ 1,630 – 1,635 จุดก่อนจะอ่อนตัวลง จากปัจจัยบวกราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3% ยืนเหนือ 70 US/Barrel หลังสหรัฐประกาศเตือนประเทศต่างๆรวมถึงบริษัทพลังงานให้ยุติการซื้อน้ำมันจากอิหร่านภายในวันที่ 4 พ.ย.มิฉะนั่นจะถูกสหรัฐคว่ำบาตร นอกจากนี้ยังได้ sentiment บวกจากการทำ Window dressing ปิดงบ 2Q18 ในช่วงสัปดาห์นี้เป็นแรงหนุน อย่างไรก็ตามคาดว่า Volume การซื้อ/ขายจะไม่หนาแน่นเนื่องจากยังถูกความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศต่างๆที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นตัวกดดันซึ่งจะส่งผลให้ภาวะตลาดผันผวนและสลับอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

• กลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือนเหนือ 70 US/Barrel
• กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ และอาหาร ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 33 Bath/USD
• กลุ่มผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว อาทิ CPF, BANPU, TKN, EPG, GCAP และ ANAN
• AOT, BH, CPALL, CPN, CBG และ MINT คาดเป็นกลุ่มที่มีโอกาสทำ Window dressing เนื่องจากราคา Underperform ตลาดในช่วงที่ผ่านมา

หุ้นแนะนำวันนี้ : AEONTS (ปิด 163 ซื้อ/เป้า 210) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/18 (มี.ค.-พ.ค.) ประมาณ 802 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 30%yoy จากยอดปล่อยสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโต 17%yoy, IVL (ปิดที่ 55.5 ซื้อ/เป้า 75) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/18 โตโดดเด่นจากปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้น และ PTA spread เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบหลายปี, CPALL(ปิด 76 ถือ/เป้า 82 บาท) ยังเป็นหุ้น TOP Pick ในหุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยมีปัจจัยหนุนจาก SSSG ที่ยังเติบโตต่อเนื่องจากการขยายสาขา คาดกำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 23,113 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 16.1%yoy

ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 2018 : ธนาคาร, พลังงาน และ อสังหาริมทรัพย์

Top picks ปีนี้ : ADVANC, ANAN, BEM, BDMS, CHG, CPALL, IVL, MINT, MTC และ QH

KSS report วันนี้ : AEONTS (ปิด 163 ซื้อ/เป้า 210), ERW (ปิด 6.65 ถือ/เป้าใหม่ 7.5 จาก 8.5), SNC (ปิด 14.6 ซื้อ/เป้า 22)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :                                           

 (+) ราคาน้ำมันดิบบวกแรงหลังสหรัฐสั่งห้ามซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.เป็นต้นไป : ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับปิดเหนือระดับ 70 $/bbl ได้อีกครั้ง หลังมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐสั่งห้ามซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน โดยมีคำสั่งให้บริษัทน้ำมันแห่งใดก็ตามที่ซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านในขณะนี้ จะต้องยุติการซื้อน้ำมันดังกล่าวอย่างสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร ประเด็นนี้คาดว่าจะเข้ามาผลักดันให้ราคาน้ำมันดิบในระยะถัดไปปรับตัวสูงขึ้นและทรงตัวอยู่ในระดับสูงเพราะหากอิหร่านไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบได้จะทำให้ซัพพลายน้ำมันดิบของโลกลดลงอย่างมีนัยสำคัญก่อให้เกิดปัญหาอุปทานตึงตัวหรือไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ (ปัจจุบันอิหร่านส่งออกน้ำมันประมาณ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน)

(+) ดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 30 จุด แม้ได้หุ้นในกลุ่มพลังงานช่วยหนุน แต่ความกังวลต่อปัญหาสงครามการค้ายังกดดันภาพรวม : แม้วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์จะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งแรงกว่า 3% แต่ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นแค่ 30 จุดเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังวิตกกังวลต่อปัญหาสงครามการค้า และยังสับสนต่อนโยบายการค้าของสหรัฐ  หลังนาย สตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐเตรียมออกแถลงการณ์จำกัดการลงทุนต่อทุกประเทศทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะจีน หากพบว่าประเทศใดละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาต่อสินค้าด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ ขณะที่นายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว

(-) ศาลฏีกาสหรัฐตัดสินเห็นพ้องกับคำสั่งของโดนัล ทรัมป์ ที่ออกคำสั่งห้ามชาวมุสลิมบางประเทศเดินทางเข้าสหรัฐอาจสร้างกระแสต่อต้านสหรัฐมากขึ้น : ศาลฎีกาลงคะแนนเสียง 5-4 มีคำวินิจฉัยว่า คำสั่งของปธน.ทรัมป์เกี่ยวกับนโยบายจำกัดคนเข้าเมือง เป็นคำสั่งที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และอยู่ภายในขอบเขตอำนาจของประธานาธิบดี โดยเมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ออกคำสั่งห้ามพลเมืองจาก อิหร่าน ซีเรีย ลิเบีย โซมาเลีย เยเมน เกาหลีเหนือ และเวเนซุเอลา เดินทางเข้าสู่สหรัฐ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง ประเด็นนี้อาจจะสร้างความเกลียดชังให้กับชาวมุสลิม และอาจรุกรามบานปลายกลายเป็นกระแสต่อต้านสหรัฐมากขึ้นในอนาคตเป็นลบต่อภาคการค้าและ Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้น