ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวลง 8.48 จุด (-0.49%) ปิดที่ 1,709 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,742 ล้านบาท จากปัจจัยลบ FED ส่งสัญญาณปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 2 ครั้งรวมเป็น 4 ครั้งในปีนี้ และอีก 3 ครั้งในปีหน้า นอกจากนี้ยังถูกความกังวลสงครามการค้ากดดันหลังสหรัฐเตรียมประกาศเก็บภาษีนำเข้า 25% ใน 1,300 สินค้าของจีน  ทั้งนี้เป็นแรงขายกลุ่ม Petro Commat และ Food โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 9,643 ล้านบาท ,ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,984 ล้านบาท และ Net Short TFEX 979 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : มีมุมมองเป็นลบ คาดดัชนีอ่อนตัวทดสอบ 1,700 – 1,705 จุดก่อนจะสลับรีบาวด์ จากความกังวล Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องหลัง FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งรวมเป็น 4 ครั้งในปีนี้ , ECB จะตรึงดอกเบี้ย 0% จนถึงกลางปีหน้า และเตรียมลดการใช้ QE ลงสู่ 1.5 หมื่นล้านยูโรในเดือนต.ค. – ธ.ค. และจะยุติการใช้ QE ในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ความกังวลสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้นหลังสหรัฐออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 5 หมื่นล้านUSD. และเตรียมจะประกาศข้อจำกัดการลงทุนเทคโนโลยีจากจีนในวันที่ 30 มิ.ย. อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นหลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาด รวมถึงแรงซื้อดักหุ้นเข้า SET 50 / 100 รอบใหม่น่าจะช่วยหนุนดัชนีในจังหวะที่อ่อนตัวได้

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy

• BANPU LANNA ราคาถ่านหินทรงตัวระดับสูงในรอบ 6 ปีล่าสุด 115 US/Tons
• กลุ่มธนาคาร ได้อานิสงส์แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และภาวะเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่อเนื่อง
• กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์และอาหาร ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 32.3 Bath/USD
• กลุ่มผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว อาทิ CPF, BANPU, TKN, EPG GCAP และ ANAN
• คาดหุ้นเข้า SET50 : KTC, DELTA, TOA, GLOW, BGRIM หุ้นออก SET50 : KCE, SAWAD, PSH, BCP, CBG

หุ้นแนะนำวันนี้ : MTC (ปิด 36.5 ซื้อ/เป้า 50) ได้ Sentiment บวกจากกระแสข่าวที่กระทรวงการคลังจะเลื่อนบังคับใช้กฏหมายนอนแบงก์ออกไปจนถึงช่วงต้นปีหน้า ด้านผลประกอบการยังเติบโตต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดกำไรสุทธิ 3,464 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 39%yoy   

ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 2018 : ธนาคาร, พลังงาน,อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์

Top picks ปีนี้ : BANPU, BBL, BCH, IVL, HTC, MINT, MTC, PTTGC, QH, และ SPALI

KSS report วันนี้ : RS (ปิด 20 ถือ/เป้าใหม่ 17 จาก 25 ), DCC (ปิด 2.46 /NOT-RATED)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :                                          

(+/-) ECB ส่งสัญญาณยุติโครงการ QE ในช่วงสิ้นปีนี้ แต่จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปจนถึงกลางปีหน้า หนุนค่าเงิน US แข็งค่า : ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ตามคาดและส่งสัญญาณตึงดอกเบี้ยที่ระดับนี้ไปจนถึงช่วงกลางปีหน้า พร้อมประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนก.ย. และปรับลดวงเงิน QE สู่ระดับ 1.5 หมื่นล้านยูโรในเดือน ต.ค.-ธ.ค. และจะยุติมาตรการ QE ในสิ้นปีนี้ ECB ประเมินเศรษฐกิจของยูโรโซนยังมีปัจจัยกดดันหลายประการ ดังนั้นจึงมีมติปรับลดคาดการณ์ GDP ในปีนี้เป็นขยายตัว 2.1% จากเดิมคาดไว้ที่ 2.4%  การยุติ QE ที่ช้ากว่าที่ตลาดคาด และ ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยไปจนถึงกลางปีหน้าส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และกดดันให้ค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่ามากที่สุดในปีนี้เป็นลบต่อ Fund Flow ที่ยังคงไหลออก

(-) ความรุนแรงของ Trade war ขึ้นอยู่กับจีนว่าจะตอบโต้การเรียกเก็บภาษีของสหรัฐหรือไม่ : วันนี้สหรัฐจะประกาศรายชื่อสินค้าที่จะเรียกเก็บภาษีจากจีนจำนวน  1,300 รายการ คิดเป็นมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) และ30 มิ.ย. ทางการสหรัฐจะประกาศข้อจำกัดในการลงทุน และการควบคุมการส่งออกต่อผู้นำภาคธุรกิจของจีนและองค์กรของจีนที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถือครองเทคโนโลยีที่มีความสำคัญในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ความรุนแรงของ Trade war ขึ้นอยู่กับจีนว่าจะออกมาตรการตอบโต้สหรัฐหรือไม่ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จีนจะออกมาตรการตอบโต้สหรัฐออกมาในมูลค่าที่ใกล้เคียงกันซึ่งจะทำให้ Trade war ยังเป็นปัญหาปกคลุมภาคการค้าของโลก และ Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นต่อไป

(+/-) ประมูลคลื่น 1800MHz วันนี้ เหลือแนวทางที่จะเกิดขึ้นเพียง 2 ทาง โดยมี ADVANC เป็นผู้กำหนด : เช้าวันนี้ DTAC ประกาศไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 1800MHz ส่งผลให้การประมูลคลื่น 1800MHz ในวันนี้เหลือแนวทางที่จะเกิดขึ้นเพียง 2 แนวทางคือ 1) ADVANC เข้าประมูลเพียงรายเดียว ผลกระทบจะเป็นลบต่อ DTAC เพราะจะทำให้ฐานลูกค้าบนคลื่นความถี่เดิมลดลง อย่างไรก็ตามในกรณีที่มีผู้ยื่นประมูลเพียงรายเดียว กสทช. จะขยายเวลาให้ผู้ประกอบการยื่นประมูลใหม่อีกภายใน 30 วัน ทำให้ผลสรุปอาจจะยืดเยื้อออกไป และ  2) ADVANC ไม่เข้าประมูล ผลกระทบจะเป็นบวกต่อกลุ่มสื่อสารทั้งกลุ่ม เนื่องจากคาดว่า กสทช.จะแบ่งคลื่นการประมูลให้เล็กลงจาก 15MHz เป็น 5MHz ทำให้ภาระต้นทุนในการประมูลลดลง โดยกรณีนี้มอง DTAC ได้ประโยชน์มากสุด