ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวลง -7.60 จุด (-0.43%) ปิดที่ 1,760 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.7 หมื่นล้านบาท จากแรงขาย PTT หลังถูก Downgrade จากบล.ต่างชาติ นอกจากนี้ยังมีแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนผลมติศาลรธน.ตีความที่มาของสว. ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลงแรง ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงเป็นฝั่งขายสุทธิ 2,560ลบ. , Net Short TFEX 5,741 สัญญา และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,635 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : มองตลาดเป็นกลางคาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,750 - 1,770 จุด เนื่องจาก ปธน.ทรัมป์เผยว่าสหรัฐยังไม่บรรลุข้อตกลงการผ่อนผันมาตรการคว่าบาตร ZTE ของจีน รวมถึงไม่พอใจการเจรจาการค้ากับจีนในการประชุมที่ผ่านมา นอกจากนี้ความกังวล Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่อง (Net sell 2.4 หมื่นลบ.MTD และ Net sell 1.04 แสนลบ.YTD )จะยังคงเป็นแรงกดดันต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคาดว่าตัวเลข GDP และ Export  Import  Q1/61 ของไทยที่ขยายตัวดีกว่าคาด รวมถึงราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวระดับสูงในรอบกว่า 3 ปีจะเป็นตัวหนุนไม่ให้ดัชนีย่อตัวลงแรงจึงคาดว่าดัชนีมีโอกาสจะผันผวนในกรอบ ทั้งนี้นักลงทุนควรติดตามการตีความศาลรธน.เกี่ยวกับกฏหมายที่มาส.ว. 3 ประเด็นในวันนี้ (23 พ.ค.) หากผลการตัดสินออกมาเป็นบวกจะทำให้ Roadmap การเลือกตั้งเป็นไปตามกรอบเดิมซึ่งช่วยหนุนต่อดัชนี แต่หากผลออกมาเป็นลบจะส่งผลให้ภาวะตลาดมีแรงขายกดดัน

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

• WORK RS BEC MONO นายกฯเตรียมออกม.44 ช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล
• กลุ่มพลังงานและปิโตรฯ ( PTT PTTGC TOP IVL ) อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงในรอบ 3 ปี
• AMATA WHA ได้อานิสงส์กฏหมาย EEC มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 15 พ.ค.
• กลุ่มธนาคารและค้าปลีก ได้อานิสงส์ตัวเลข GDP Q1/61 ของไทยขยายตัวสูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส
• กลุ่มอาหารและอิเล็คทรอนิคส์ ได้อานิสงส์แนวโน้มเงินบาทอ่อนค่าลง

หุ้นแนะนำวันนี้ : GGC (ปิด 13 ซื้อ/เป้า 18.2) เก็งกำไรข่าวภาครัฐเตรียมออกมาตรการตึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศและเพิ่มสัดส่วนการในใช้น้ำมันไบโอดีเซลด้วยการเพิ่มสัดส่วนจาก B7 เป็น B20 คาดเป็นบวกต่อผู้ประกอบการที่ผลิต B100 โดยเฉพาะ GGC ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากไบโอดีเซลสูงถึง 60% ของรายได้รวม

ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 2018 : ธนาคาร, พลังงาน,อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์

Top picks ปีนี้ : BANPU, BBL, BCH, IVL, HTC, MINT, MTC, PTTGC, QH, และ SPALI

KSS report วันนี้ : IHL (ปิด 8.65 ซื้อ/เป้าใหม่ 11 จาก 13), RATCH (ปิด 52.25 ซื้อ/เป้า 62)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :                                          

• (-) ตลาดกลับมากังวลปัญหาสงครามการค้าอีกครั้ง หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมายืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงใดๆกับรัฐบาลจีนในการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบริษัท ZTE ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารของจีน นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังไม่พอใจต่อผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
• (+/-) 30 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการที่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศเพิ่มขึ้นใกล้แต่ระดับ 30 บาทต่อลิตรในปัจจุบัน ภาครัฐจึงเตรียมลดผลกระทบดังกล่าวด้วยการตึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ระดับ 30 บาทต่อลิตร โดยใช้เงินจากกองทุนน้ำมันมาช่วยชดเชย ซึ่งปัจจุบันกองทุนน้ำมันมีสถานะเป็นบวกอยู่ประมาณ 30,000 ล้านบาท  ดังนั้นระยะสั้นจึงไม่มีผลกระทบกับผู้ประกอบการค้าปลีก อาทิ PTT BCP ESSO และ SPRC
• (+/-) วันนี้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิน พรบ. ที่มาของ ส.ส. และ ส.ว. ว่าจะขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญ หากผลการตัดสินออกมาในทางบวกจะทำให้ Road map การเลือกตั้งยังคงเดิมคือเลือกตั้งประมาณเดือน ก.พ. ซึ่งจะส่งผลบวกต่อ Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นโดยรวม โดยเฉพาะกลุ่ม รับเหมา และ นิคมอุตสาหกรรม แต่หากผลการตัดสินออกมาในทางตรงกันข้ามจะทำให้การเลือกตั้งอาจต้องล่าช้า ส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นและบรรยากาศการลงทุนซึ่งจะทำให้หุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาแล้วในช่วงก่อนหน้าปรับตัวลง