Money Wizard - April 12, 2018
(12/04/2018 - 08:30)

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index เพิ่มขึ้น 2.27 จุด (+0.13%) ปิดที่ 1,763 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากความคลายกังวลสงครามการค้าระหว่างจีน – สหรัฐฯ หลังจีนส่งสัญญาณเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้าถึงตลาดจีนมากขึ้น อย่างไรก็ตามมีแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้ดัชนีปิดบวกเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิ 3,523 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX 11,548 สัญญา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แต่ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,774 ล้านบาท 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,755 – 1,770 จุด เนื่องจากมีปัจจัยบวก/ลบที่คละเคล้าโดยภาวะตลาดมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทั้งซาอุฯและซีเรีย อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากความกังวลสหรัฐฯขู่จะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรียเพื่อตอบโต้รัฐบาลของปธน.ชาร์ อัล-อัสซาดที่ใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน , ความกังวล Roadmap การเลือกตั้งของไทยในเดือนก.พ.2562 หลังวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับวินิจฉัยกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. นอกจากนี้แรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์จะเป็นอีกแรงกดดันด้วยเช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

  • กลุ่มพลังงานและปิโตรฯ ( PTT IRPC PTTGC IVL ) คาดกำไร Q1/18 ยังคงเติบโตโดดเด่น + ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปีล่าสุด 66.8 US/Barrel
  • กลุ่ม Domestic Play เช่น กลุ่มโรงพยาบาล (BCH BDMS BH)  กลุ่มขนส่ง ( AOT )
  • กลุ่มเครื่องดื่ม ( HTC ) อานิสงส์ราคาน้ำตาลทรงตัวระดับต่ำในรอบ 2 ปีล่าสุด 12.1 cent/pound
  • TVO ราคากากถั่วเหลืองมีแนวโน้มขาขึ้นล่าสุด 380 US/ตัน และคาดกำไรQ1/18 เติบโต QoQ + YoY

** PTT จัดประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้ 12 เม.ย.เพื่อขออนุมัติจ่ายปันผลและแตกพาร์จาก 10 เป็น 1 บาท

หุ้นแนะนำวันนี้ : PTTGC (ปิด 98.5 ซื้อ/เป้า 115) : คาดกำไรสุทธิในปีนี้จะพุ่งทำสถิติสูงสุดได้เป็นประวัติการณ์อีก 1 ปี จากแรงหนุนของปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น โดยปีนี้ PTTGC มีแผนเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ คือ โครงการ mLLDPE เริ่มผลิต 1Q18 และ โครงการ ME หน่วยที่ 2 เริ่มผลิต 4Q18 ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากความต้องการที่สูงขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยปีนี้เราคาดกำไรสุทธิประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 14%yoy

ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 2018 : ธนาคาร, พลังงาน,อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์

Top picks ปีนี้ : ANAN, BANPU, BBL, BCH, IVL, HTC, MINT, PTTGC, SPALI and TMB

KSS report วันนี้ : AAV (ปิด 5.85 ถือ/เป้า 6.2)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :                                          

  • ADB คาด GDP ไทยปี 61 โต 4% และปี 62 โต 4.1% เนื่องจากการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชนและการบริโภคภายในประเทศที่กระเตื้องขึ้น รวมถึงปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2561 ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย สู่ระดับ 6.0% จากระดับ 5.8% โดยได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์การส่งออกที่แข็งแกร่ง
  • รายงานประชุมเฟดประจำวันที่ 20-21 มี.ค.ชี้กรรมการเฟดสนับสนุนให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่ง โดยเชื่อว่าในระยะกลางอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 2% ขณะเดียวกันเฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ และปีหน้า และขึ้นอีก 2 ครั้งในปี 2563 นอกจากนี้ เฟดได้ปรับเพิ่มขคาดการณ์ GDP ของสหรัฐในปีนี้สู่ระดับ 2.7% จากเดิมที่ 2.5% และได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้า สู่ระดับ 2.9% จากเดิมที่ระดับ 2.7%
  • ( - ) ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 218.55 จุด จากความกังวลความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะใช้มาตรการทางทหารต่อซีเรีย หลังปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าสหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้รัฐบาลของปธน.บาชาร์ อัล-อัสซาดที่ใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากรายงานการประชุมเฟดประจำเดือนมี.ค.ระบุว่ากรรมการเฟดต่างก็สนับสนุนให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มขยายตัวขึ้นแข็งแกร่ง
  • (+) ราคาน้ำมันดิบพุ่งแรงเหนือ 66$/bbl  : จากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธโจมตีกรุงริยาดของซาอุดิอาระเบียเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าสหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย แม้ว่า EIA จะเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะ 189,000 บาร์เรล