ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวลง -18.07 จุด ปิดที่ 1,766 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.4 หมื่นล้านบาท จากความกังวล Roadmap การเลือกตั้งอาจเลื่อนออกไปหลังศาลรธน.รับพิจารณาตีความร่างกม.เลือกตั้งส.ว. และสนช.เตรียมยื่นร่างกม.เลือกตั้งส.ส.ให้ศาลรธน.ตีความ ประกอบกับข่าวกบง.เตรียมรื้อสูตรโครงสร้างน้ำมันใหม่ส่งผลให้มีแรงขายกลุ่มพลังงาน ทั้งนี้ Fund Flow ต่างชาติขายสุทธิ 1,699 ล้านบาท , Net Short TFEX 26,529 สัญญา และซื้อสุทธิตราสารหนี้ 610 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ :  ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,760 - 1,775 จุด (อิงทางบวก) เนื่องจากภาวะตลาดได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นหลังกลุ่มในและนอกโอเปกพร้อมปรับลดกำลังการผลิตเพื่อหนุนราคาน้ำมัน ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่งโดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 12,000 รายสู่ 215,000 ราย รวมถึงการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.พ. +0.2% อย่างไรก็ตามยังคงมีความกังวลในส่วนของ Roadmap การเลือกตั้งของไทยอาจล่าช้าหลังศาลรธน.รับพิจารณาตีความร่างกม.เลือกตั้งส.ว. และสนช.เตรียมยื่นร่างกม.เลือกตั้งส.ส.ให้ศาลรธน.ตีความ ซึ่งยังเป็นแรงกดดันต่อดัชนี

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

• กลุ่มเครื่องดื่ม ( HTC ) อานิสงส์ราคาน้ำตาลลงต่ำสุดในรอบ 2 ปีล่าสุด 12.3 cent/pound
• TVO ราคากากถั่วเหลืองดีดตัวขึ้นล่า 384 US/ตัน และคาดกำไร Q1/18 เติบโต QoQ + YoY
• กลุ่ม Domestic Play เช่น กลุ่มโรงพยาบาล (BCH BDMS BH)  กลุ่มขนส่ง (AOT)
• กลุ่มอาหาร ( CPF GFPT ) อานิสงส์ไทยเริ่มส่งออกเนื้อและชิ้นส่วนไก่ไปจีน
• กลุ่มปิโตรฯ ( IRPC PTTGC IVL ) คาดกำไร Q1/18 ยังคงเติบโต

หุ้นแนะนำวันนี้ : TVO (ปิด 34.25 บาท ซื้อ/ เป้า 38 บาท ) คาดกำไรสุทธิ 1Q18 โตต่อเนื่อง จาก Spread เม็ดถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นทำ New high หลังจากที่อาร์เจนติน่าซึ่งเป็นผู้ส่งออกกากถั่วเหลืองรายใหญ่ของโลกประสบปัญหาภัยแล้ง ขณะที่ความต้องการจากจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อหลักยังเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 2018 : ธนาคาร, พลังงาน, อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์

Top picks ปีนี้ : ANAN, BANPU, BBL, BCH, IVL, HTC, MINT, PTTGC, SPALI and TMB

KSS report วันนี้ : MAJOR (ปิด 28.5 ซื้อ/ เป้า 35), TOP (ปิด 90.75 ถือ/ เป้า 95), TISCO (ปิด 88 ซื้อ/เป้า 98)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :                                          

• (+) 255 ดัชนีดาวโจนส์กลับมาปิดบวก 255 จุด ปิดที่ 24,103 จุด จากการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากเฟซบุ๊กเปิดเผยแผนการรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน รวมถึงการเข้าถึงและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับบริษัทต่างๆ นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อหุ้นของบรรดากองทุนเพื่อทำราคาปิดในวันสุดท้ายของไตรมาส (window dressing) ขณะที่วันนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday
• (+) WTI 3 วานนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.56$ (+0.9%) ปิดที่ 64.94$/bbl กังวลการผลิตน้ำมันดิบในตะวันออกกลางจะได้รับผลกระทบหลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีระหว่าง ซาอุฯ กับ กลุ่มกบฏฮูตี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากมีกระแสข่าวว่าสหรัฐจะถอนตัวจาก ข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านทำไว้กับ 6 ชาติมหาอำนาจในปี 2558 ทำให้มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐอาจทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ และจำกัดการส่งออกน้ำมัน
• ( Fund Flow US$: วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นภูมิภาค US$744 ล้าน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 โดยขายมากที่สุดในตลาดหุ้นไต้หวันและเกาหลีใต้ US$419 ล้าน และ US$271 ล้าน ส่วนกลุ่ม TIP ต่างชาติขายมากสุดในตลาดหุ้นไทย US$54 ล้าน แต่ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอินโดฯ US$0.81 ล้าน ส่วนตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปิดทำการ