Money Wizard - January 23, 2018
(23/01/2018 - 08:25)

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,824 จุด (+2.72 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 59,794 ล้านบาท โดยเป็นแรงซื้อดักงบกำไร 2017 รายตัวโดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี อย่างไรก็ตามมีแรงขายกลุ่มธนาคารใหญ่หลังงบ Q4/17 หดตัวกดดันให้ดัชนีปิดบวกเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 459 ล้านบาท, Net Long TFEX 9,483 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 2,662 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ :  ดัชนีหุ้นทั่วโลกและไทยได้ปัจจัยบวกจากวุฒิสภาสหรัฐเห็นชอบในการลงมติรอบแรกต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวด้วยคะแนน 81-18 เสียง ทำให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณบริหารประเทศถึงวันที่ 8 ก.พ. รวมถึงกระแสการเก็งงบ Q4/17 ของกลุ่มพลังงานที่คาดว่าจะขยายตัวจากราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูง อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงผันผวน และภาวะ Overbought ของดัชนียังคงเป็นแรงกดดัน ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นในกรอบแนวต้าน 1,830 – 1,835 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

  • กลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC GULF EA) แนวโน้มกำไรเติบโตระยะยาว
  • กลุ่มเครื่องดื่ม (HTC ICHI CBG) ได้ประโยชน์การลอยตัวน้ำตาลซึ่งทำให้ต้นทุนน้ำตาลลดลง
  • TVO คาดราคาถั่วเหลืองเป็นขาขึ้นในปี 2018 จาก Supply ที่ลดลงแต่ Demand จีนยังแข็งแกร่ง
  • BANPU LANNA ราคาถ่านหินขึ้นทำ High รอบ 13 เดือนล่าสุด 106.1 US/Ton
  • กลุ่มพลังงานและปิโตรฯ (PTTEP IRPC PTTGC IVL ) ราคาน้ำมันทรงตัวสูงและคาดกำไรเติบโต
  • กลุ่มค้าปลีก (CPALL HMPRO CPN ) SSSG Q4/17 เติบโตขึ้นได้ดีตามภาวะเศรษฐกิจที่เติบโต

หุ้นแนะนำวันนี้ : IHL (ปิด 12.7 บาท ซื้อ/ เป้า 13 บาท ) คาดกำไรปกติ 4Q17 เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากยอดขายเบาะหนังรถยนต์และฟอกหนังเพิ่มขึ้น ขณะที่ปีนี้คาดกำไรสุทธิยังเติบโตในระดับสูงเนื่องจากจะรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเข้ามาเป็นปีแรก, TPCH (ปิด 15.2 ซื้อ /เป้า 20 บาท) คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 76 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 14%qoq และ 9%yoy จากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าแห่งที่ 5 เข้ามาเต็มไตรมาส ขณะที่ปีนี้จะรับรู้กำไรเต็มปีหนุนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 42%yoy

ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 2018 : ธนาคาร, พลังงาน, อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์

Top picks ปีนี้ : AMATA, BBL, BCH, CENTEL, COL, CPALL, IVL, MINT, ORI and TMB

KSS report วันนี้ : COL(ปิด 62 ซื้อ/เป้า 93), KTB(ปิด 20.2 ซื้อ/เป้า 22), SCB(ปิด 154 ซื้อ/เป้า 170)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :      

*       (+) IMF มองบวกปรับเพิ่มคาดการณ์ World GDP ปีนี้และปีหน้าเป็นขยายตัว 3.9% จากเดิม 3.7% ตามลำดับ : วานนี้ IMF ออกมาปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกทั้งในปีนี้และปีหน้าเป็นขยายตัว 3.9% จากเดิม 3.7% ตามลำดับ โดยปรับเพิ่มคาดการณ์ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก อาทิ สหรัฐ จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป โดยสหรัฐมีการปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ขึ้นมากที่สุดเนื่องจากจะได้ผลบวกจากมาตรการปฏิรูปภาษีของภาครัฐ นอกจากนี้ IMF ยังปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ในกลุ่มประเทศ อาเซียนขึ้นด้วย อาทิ ไทย อินโดฯ มาเลเซีย ฟิลิปินส์ และเวียดนาม

(+) วุฒิสภาสหรัฐมีมติเห็นชอบให้ผ่านร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราว หนุนดัชนีดาวโจนส์กลับมาบวกแรง : ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 143 จุด ปิดที่ 26,215 จุด ขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐให้ความเห็นชอบในการลงมติรอบแรกต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวด้วยคะแนนเสียง 81-18 เสียง  ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการบริหารประเทศไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ.โดยกระบวนการต่อจากนี้จะมีการลงมติขั้นสุดท้ายอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

(-) Fund Flow ต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ : วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นภูมิภาค US$130 ล้าน เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ โดยขายมากที่สุดในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$ 234 ล้าน ตามด้วย อินโดฯ และ ไทย US$22 ล้าน และ 14.4 ล้าน ตามลำดับ อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิในไต้หวัน US$131 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$8.81 ล้าน ตามลำดับ

(+/-) ยอดส่งออกของไทยเดือน ธ.ค.ต่ำกว่าคาด แต่รวมทั้งปียังขยายตัว 9.9% โตมากสุดในรอบ 6 ปี : ยอดส่งออกเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 8.6% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 11.5% และลดลงจากเดือน พ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 13.4% อย่างไรก็ตามเมื่อรวมทั้งปี 2017 ไทยมียอดการส่งออกเพิ่มขึ้น 9.9%yoy ทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 ปี ส่วนแนวโน้มปีนี้แบงก์กรุงศรีฯคาดการส่งออกจะยังเติบโตตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก แต่อัตราการเติบโตคาดว่าจะชะลอลงเป็น 5% อย่างไรก็ตามเรามองว่าประเด็นนี้จะไม่กระทบกับ GDP เนื่องจากเราคาดว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนภาคเอกชน และการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้นจะเข้ามาชดเชย รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่องจะช่วยหนุนให้ GDP ของบ้านเราในปีนี้ยังขยายตัวที่ระดับ 4% ได้