ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index อ่อนตัวลงปิดที่ 1,793 จุด (-2.64 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 78,351 ล้านบาท จากแรงขายทำกำไรหลังดัชนีดีดตัวขึ้นร้อนแรง +2.2% YTD จนสัญญาณเทคนิคเข้าเขต Overbougth รวมถึงความกังวล Fund flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออก ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,332 ล้านบาท ,  แต่ Net Long TFEX 9,423 สัญญา และ ยังซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 6,441 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ :  แม้ว่าภาวะตลาดหุ้นไทยจะมีปัจจัยบวกจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน ถ่านหิน)ที่ทรงตัวระดับสูง รวมถึงคาดการณ์เฟดชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตามกระแส Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องโดยเป็น Net Sell 3 วัน ราว 6.4 พันลบ.รวมถึงภาวะ Overbought ทางเทคนิคจะกดดันให้ภาวะตลาดมีความผันผวนสูง ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,785 - 1,800 จุด

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ซื้อเก็งกำไร

• UVAN ราคาปาล์มขึ้นทำ High ในรอบ 2 เดือนล่าสุด 2,625 MY/Tons
• BANPU LANNA AGE ราคาถ่านหินขึ้นทำ High รอบ 13 เดือนล่าสุด 106.75 US/Ton
• กลุ่มพลังงานและปิโตรฯ (PTTEP IRPC PTTGC IVL ) ราคาน้ำมันพุ่งทำ High ในรอบ 2 ปีครึ่ง
• กลุ่มเดินเรือ (PSL TTA) ค่าระวางมีสัญญาณรีบาวด์ขึ้นล่าสุด 1,385 จุด
• กลุ่มที่คาดว่ากำไรเติบโตโดดเด่นในปี 2018  AOT BBL TMB IVL  UVAN GCAP ORI  IHL BCH EA

หุ้นแนะนำวันนี้ :  UVAN (ปิด 8.15 บาท  ซื้อ/ เป้า 10 บาท )  คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ประมาณ 130 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 89%yoy จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดของปี หลังจากมีผลผลิตปาล์มดิบออกสู่ตลาดจำนวนมากจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ขณะที่ระสั้น ยังได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันปาล์มที่กลับมาเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 เดือน

ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 2018 : ธนาคาร, พลังงาน, อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์

Top picks ปีนี้ : AMATA, BBL, BCH, CENTEL, COL, CPALL, IVL, MINT, ORI and TMB

KSS report วันนี้ : CPALL (ปิด 76.5 ลดเกรดเป็น ถือ/เป้าใหม่ 80 เดิม 78), PLANB (ปิด 5.95 อัพเกรดเป็นซื้อ/เป้า 7), TOP (ปิด 104.5 ถือ /เป้า 95)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :      

 (+/-) 1 หลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นทำ All time high กันอย่างต่อเนื่องในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเนื่องจากขานรับตัวเลขเศรษฐกิจ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่อาจจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าที่จะปรับขึ้นในอัตราเร่ง อย่างไรก็ตามดัชนีเริ่มเข้าสู่โหมดของการพักตัวหลังจากที่ตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน นักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนเพื่อรอผลกระทบของมาตรการปรับลดภาษีของโดนัล ทรัมป์ รวมถึงรอดูประกอบการของกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศออกมา รวมไปถึงรอลุ้นเมกะโปร์เจกต์มูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญของสหรัฐที่คาดว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมของสภาในช่วงปลายเดือนนี้

(+) GDP % % : เมื่อวานนี้กลุ่มบริษัทในภาคธนาคารต่างออกมาปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ในปี 2018 กันหลายแห่งโดยมีมุมมองไปใหนทิศทางเดียวกันคือคาด GDP ในปีนี้จะขยายตัวเกิน 4% เนื่องจากได้ผลบวกจากภาคการท่องเที่ยว การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นไปตามมุมมองของแบงก์กรุงศรีเคยฯคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า โดยคาด GDP ไตรมาส 4/17 จะขยายตัว 4.6% หนุน GDP ปี 2017 โต 4% และคาด GDP ปีนี้โตอีก 4%

(+) Fund Flow : วานนี้นักลงทุนต่างชาติยังเข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นภูมิภาคอีก US$590 ล้าน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 โดยซื้อมากที่สุดในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$497 ล้าน ตามด้วย ไต้หวัน US$153 ล้าน ส่วนกลุ่ม TIP ซื้อสุทธิมากที่สุดในตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ US$24 ล้าน ตามด้วยอินโดฯ US$20 ล้าน ส่วนตลาดหุ้นไทยต่างชาติขายสุทธิมากขึ้นเป็น US$103 ล้าน

(+/-) สัปดาห์นี้ติดตามการ Preview ผลประกอบการ 4Q17 ของกลุ่มธนาคารและกลุ่มการเงิน อาจกระตุ้นให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร ดักทางผลประกอบการโดยเฉพาะหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการจะออกมาดี อาทิ TISCO และ MTLS