ลาทีปีวัว - 30 ธันวาคม 2021
(30/12/2021 - 07:45)

ตลาดหุ้นวานนี้

SET บวก 11.81 จุด ปิดที่ 1,653 จุด ปริมาณซื้อขาย 7.2 หมื่นลบ.  ตามการคลายกังวล Omicron รวมถึงแรงซื้อ SSF RMF และ Window dressing ช่วงท้ายปี ทั้งนี้เป็นแรงซื้อในกลุ่ม BANK FIN และ FOOD หนุนดัชนีปิดบวก

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

คาด SET แกว่งตัว 1,645 - 1,660 จุด ภาวะตลาดยังคงได้แรงหนุนการคลายความกังวลผลกระทบ Omicron ราคาน้ำมันดิบทรงตัวสูงหลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาด และเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในปีหน้า อย่างไรก็ตามแรงกดดันตามสัญญาณเทคนิคและขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาวปีใหม่จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัว    

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • Domestic Play (HMPRO CPN CRC VGISYNEX COM7 JMART)
  • ค่าระวาง Container ทรงตัวระดับสูง RCL LEO III WICE SONIC JWD
  • นโยบายสนับสนุนรถ EV  EA GPSC AMATA  WHA AH SAT
  • PTTEP TOP PTTGC IVL SPRC
  • กลุ่มธนาคาร (BBL TTB KTB KBANK) ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น

หุ้นแนะนำวันนี้

  • KBANK (142166Fund flow ไหลเข้า KBANK มักจะเป็นเป้าหมายแรกของกลุ่มธนาคาร ปีหน้า GDP ฟื้นตัวหนุนสินเชื่อขยายตัว เทรนด์ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นตามเงินเฟ้อหนุน NIM เพิ่มขึ้น
  • SPRC (ปิด 9.95 ซื้อ/เป้า 12 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นทะลุ 76$/bbl ทำให้ความเสี่ยงที่จะมี Stock loss ลดลง ขยะที่ค่าการกลั่นฟื้นตัวเร็วจากระดับ 2.3$/bbl ในช่วงปลายเดือน พ.ย.ขึ้นสู่ระดับ 7.04$/bbl ในปัจจุบัน

บทวิเคราะห์วันนี้

HREIT (ปิด 9.05 ซื้อ/เป้า 10.70)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) กลยุทธ์การลงทุนปี 2022 ยังมองมองบวกให้เป้า SET ที่ 1,800 จุด: เรามีมุมมองเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุนใน 1Q22 และ ปี 2022 คาดการเปิดประเทศและกิจกรรมเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวจะผลักดันให้ภาคธุรกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตต่อเนื่อง ให้เป้า SET Index ณ สิ้น 1Q22 ที่ 1,730 จุด และให้เป้า SET Index ณ สิ้นปี 2022 ที่ 1,780 -1,800 จุด อิง PE เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีของ SET ที่ 16.6 เท่า และ 12M-Fwd EPS ที่ 108 บาท โดยมีหุ้น Top Pick คือ AMATA AH IVL SAT SPRC และ WHA
  • (+) อิงสถิติย้อนหลัง 10 ปี หุ้นไทยมีโอกาสเกิด January effect 80%: January คือปรากฏการณ์ที่ตลาดหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นแรงหรือให้ผลตอบแทนเป็นบวกจากการลงทุนในเดือน ม.ค. หางอิงสถิติย้อนหลัง 10 ปี (2012-2021) พบว่าตลาดหุ้นไทยในเดือน ม.ค. ให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 8 ปี และมีเพียง 2 ปีเท่านั้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นลบหรือคิดเป็นความน่าจะเป็นที่จะได้ผลตอบแทนเป็นบวก 80%
  • (+) ดาวโจนส์, น้ำมันบวกต่อ แต่ปัจจัยบวกยังเป็นเรื่องเดิมคือคลายกังวลโอไมครอน: ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 90 จุด และราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ปิดที่ระดับ 76.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปัจัยบวกยังเป็นเรื่องเดิมคือนักลงทุนคลายกังวลต่อการระบาดของโอไมครอนหลังผลวิจัยระบุผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงและมีโอกาสเข้า รพ. น้อย นอกจากนี้ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจาสต็กน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงอีก 3.6 ล้านบาร์เรลลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5