January 16, 2020
(16/01/2020 - 08:40)

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ปรับตัวลง -5.85 จุด (-0.37%) ที่ระดับ 1,581 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.5 หมื่นล้านบาท ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านเนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจต่อทิศทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในอนาคตหลังมีกระแสข่าวว่าสหรัฐจะไม่ลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในปัจจุบันจนกระทั่งหลังการเลือกตั้งสหรัฐช่วงเดือนพ.ย. ทั้งนี้เป็นแรงขายในกลุ่มโรงไฟฟ้า ค้าปลีก และขนส่ง ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,328 ล้านบาท และ Net Short TFEX 13,672 สัญญา แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,505 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET Index แกว่งตัว 1,575 - 1,588 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้ปัจจัยบวกสหรัฐ-จีนลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งสหรัฐจะปรับลดภาษีครึ่งหนึ่งจากอัตรา 15% ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์และชะลอการเก็บภาษีเพิ่มเติม ส่วนจีนจะปฏิรูปโครงสร้างรวมทั้งซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 2 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามสหรัฐยังคงตรึงอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนราว 2 ใน 3 มูลค่าราว 3.6 แสนล้านดอลลาร์ จนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. และจะพิจารณาปรับลดอัตราภาษีลงเมื่อมีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสสอง ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจการการเจรจาในอนาคต ประกอบกับกระแส Fund flow ต่างชาติที่ยังคง Net Sell ต่อเนื่อง 5 วันราว 5.3 พันลบ.จะกดดันให้ดัชนีผันผวนต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่ม Defensive และงบ 4Q19F คาดว่าจะออกมาดีและดีต่อเนื่องในปีนี้: GPSC, GULF, JMT , CPF, SAWAD, MTC, BTS, BEM, INTUCH, ADVANC และ DTAC
  • กลุ่มเครื่องดื่ม OSP, CBG, HTC, ICHI, SAPPE อานิสงส์ภัยแล้งที่รุนแรงและยาวนานจนถึงกลางปี
  • กลุ่มอิเล็คฯ HANA, KCE, DELTA รับอานิสงส์ Trade war ผ่อนคลายและเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง
  • กลุ่มรับเหมา STEC, CK, SEAFCO ลุ้นผลการเปิดซองราคาประมูลสนามบินอู่ตะเภาในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.)

หุ้นแนะนำวันนี้

  • CK (ปิด 20.9 ซื้อ เป้า IAA Consensus 25.5 บาท) เก็งกำไรข่าวเปิดประมูลซองราคาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาในวันพรุ่งนี ด้านพื้นฐาน CK ยังมีเงินลงทุนในบริษัทลูกซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ รถไฟฟ้า ทางด่วน (BEM), น้ำประปา (TTW) และ โรงไฟฟ้า (CKP) จึงมีความมั่นคงของผลประกอบการมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่นที่เน้นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเพียงอย่างเดียว
  • CPF (ปิด 29.5 ซื้อ/เป้า 33.5) คาดทิศทางผลกำไร 4Q19 และต่อเนื่องไปยัง 1Q20 จะยังดีต่อเนื่อง ตอบรับราคาหมูในประเทศฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 73-74 บาท ต่อ ก.ก.เทียบจาก 55 บาทต่อ ก.ก.ในช่วง 2Q19-3Q19  เช่นเดียวกับราคาหมูเวียดนามที่ฟื้นตัวขึ้นกว่าเท่าตัวจากระดับ 33,000 ดองต่อ ก.ก. ขึ้นเป็น 80,000 ดองต่อก.ก. ในปัจจุบัน

บทวิเคราะห์วันนี้

GFPT (ปิด 13.2 ถือ/เป้าใหม่ 14 เดิม 14.5)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) จีนกับสหรัฐลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกตามคาด เน้นบังคับใช้ข้อตกลงเพื่อปูทางสำหรับการลดภาษีในเฟสที่ 2: โดยจีนจะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 2 ปีข้างหน้า, เพิ่มมาตรการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา, เปิดเสรีการบริการทางการเงิน, ไม่บังคับให้บริษัทสหรัฐถ่ายโอนเทคโนโลยีให้แก่บริษัทจีน และไม่บิดเบือนค่าเงินเพื่อหวังผลประโยชน์ด้านการส่งออก ส่วนสหรัฐจะปรับลดภาษีจาก 15% เป็น 7.5% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์ และชะลอการเก็บภาษีเพิ่มเติม แต่สหรัฐจะยังคงตรึงอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนราว 2 ใน 3 คิดเป็นมูลค่าราว 3.6 แสนล้านดอลลาร์ จนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. และจะพิจารณาปรับลดอัตราภาษีก็ต่อเมื่อสหรัฐและจีนมีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสสองซึ่งอาจจะถูกแบ่งออกเป็นหลายเฟสย่อย อาทิ 2A, 2B และ 2C
  • (+) กลุ่มรับเหมาฯ - ติดตามการเปิดซองราคาประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาคาดรู้ผลผู้ชนะในเบื้องต้นวันพรุ่งนี้: สืบเนื่องจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาตัดสินให้บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด (กลุ่ม CP+ CK+ITD+BGRIM) กลับเข้าสู่การประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาได้ พรุ่งนี้คณะกรรมการคัดเลือกนัดให้เปิดซองราคาของกลุ่ม CP หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดซองราคาของกลุ่ม บีบีเอส และกลุ่ม Grand consortium ซึ่งเป็น 2 ใน 3 ผู้ประมูลไปแล้ว โดย กลุ่ม บีบีเอส ให้ผลตอบแทนรัฐมากสุดประมาณ 3 แสนล้านบาท ขณะที่กลุ่ม Grand consortium ให้ผลตอบแทนประมาณ 1 แสนล้านบาท (เงื่อนไขการประมูลคือใครให้ผลตอบแทนรัฐมากสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล) ดังนั้นพรุ่งนี้ 17 ม.ค.2020 การเปิดซองราคาจะทำให้เราทราบผลประมูลในเบื้องต้นทันที โดยหากกลุ่ม ซีพี เสนอผลตอบแทนกับรัฐสูงกว่า 3 แสนล้านบาทจะทำให้กลุ่ม ซีพี ชนะประมูล แต่หากต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท จะทำให้กลุ่ม บีบีเอส กลายเป็นฝ่ายชนะประมูล เราเชื่อว่าประเด็นนี้น่าจะหนุนให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะทราบผลประมูลจริงในวันพรุ่งนี้
  • (+/-) กลุ่มธนาคารยังถูกกดดันนักลงทุนรอดูประกาศงบ 4Q19 ในวันพรุ่งนี้และต้นสัปดาห์หน้า: โดย KBANK, SCB, BBL และ KKP จะประกาศงบ 4Q19 ในวันพรุ่งนี้ส่วน KTB และ TCAP จะประกาศงบในต้นสัปดาห์หน้า (ประมาณวันที่ 21 ม.ค.2020) เบื้องต้น Consensus คาด KBANK จะมีกำไรสุทธิ 8,600 ล้านบาท ลดลง 13%qoq แต่เพิ่มขึ้น 23%yoy, SCB คาดมีกำไรสุทธิ 9,200 ล้านบาท ลดลง 38%qoq แต่เพิ่มขึ้น 30%yoy , BBL คาดมีกำไรสุทธิ 8,800 ล้านบาท ลดลง 6%qoq แต่เพิ่มขึ้น 9%yoy , KKP คาดมีกำไรสุทธิ 5,960 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 11%qoq และ 26%yoy, KTB คาดมีกำไรสุทธิ 6,688 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5%qoq และ 9%yoy ส่วน TCAP คาดมีกำไรสุทธิ 1,755 ล้านบาทลดลง 29%qoq และ 13%yoy